คำถาม :  ประกันสังคม เตรียมพร้อมใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด นายจ้างค้างชำระเงินสมทบแล
รายละเอียด : สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เอาจริงใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับนายจ้างค้างชำระเงินสมทบ จำนวน 32,385 ราย เตรียมจับมือกรมสรรพากรเก็บเงินสมทบพร้อมภาษี พร้อมใช้มาตรการเฝ้าระวัง ทั้งฺแบล็กลิส (Black list) คาดปี 56 ลดลง ครึ่งต่อครึ่ง
นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยต่อสื่อมวลชนกรณีนายจ้างติดค้างชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคม เหตุนายจ้างหักเงินสมทบในส่วนของนายจ้าง ผู้ประกันตนแล้วไม่นำส่งสำนักงานประกันสังคม ซึ่งจากการประมวลผลข้อมูลหนี้ค้างชำระ ณ วันที่ 10 สิงหาคม 2555 พบหนี้ค้างชำระลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2555 คือจำนวนสถานประกอบการค้างชำระจำนวน 33,071 ราย จำนวนเงิน 4,047 ล้านบาท ลดลงเหลือ 32,385 ราย จำนวนเงิน 3,980 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้แยกตามสถานะของสถานประกอบการ คือ สถานะ (A) นายจ้างยังประกอบกิจการอยู่เป็น จำนวน 18,412 ราย จำนวนเงิน 2,240 ล้านบาท สถานะ (S) หยุดกิจการไปแล้ว จำนวน 13,335 ราย จำนวนเงิน 1,660 ล้านบาท และสถานะ (C) เลิกกิจการกับกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 638 ราย จำนวนเงิน 78 ล้านบาท
ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมได้มีแนวทางมาตรการดำเนินการกับนายจ้างที่ติดค้างชำระหนี้ตามขั้นตอน คือ แจ้งเตือนและเชิญพบ กรณีนายจ้างมาพบจะได้รับหนังสือรับสภาพหนี้โดยมีหลักทรัพย์ หรือบุคคลค้ำประกัน หากผิดนัดไม่ชำระ 2-3 ครั้ง จะดำเนินการกับบุคคลหรือหลักทรัพย์ทันที หากในกรณีนายจ้างไม่มาพบตามหนังสือเชิญ สำนักงานประกันสังคมจะดำเนินคดีขัดคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้จะจัดส่งรายชื่อนายจ้างชำระหนี้และประวัติไม่ดีให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเฝ้าระวังและแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยกัน ในกรณีที่นายจ้างต้องการความช่วยเหลือทางด้านที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุน ทางสำนักงานประกันสังคมจะจัดส่งคณะทำงานเข้าช่วยเหลือ สำหรับนายจ้างที่มีเจตนาไม่ชำระเงิน หรือไม่ใส่ใจในข้อกฎหมายใดๆ เลยจะใช้มาตรการดำเนินการยึด อายัดและขายทอดตลาดทรัพย์สิน และหากมีมูลหนี้สูงจะทำการฟ้องล้มละลาย สำหรับนายจ้างที่ปิดกิจการไปแล้ว หากสำนักงานประกันสังคมติดตามนายจ้างได้ก็จะดำเนินการเช่นเดียวกับ สถานประกอบการสถานะยังดำเนินกิจการอยู่ แต่หากไม่สามารถติดตามนายจ้างได้ หรือคดีหมดอายุความตามกฎหมายแล้วจะดำเนินการปรับปรุงค่าหนี้ทางบัญชีให้เหลือเป็นหนี้จริงเท่านั้น
เลขาธิการฯ กล่าวต่อไปว่า สำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่โดยอยู่ระหว่างทำข้อตกลงเพื่อร่วมมือกับกรมสรรพกร ในการให้กรมสรรพากรรับชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคม เพื่อให้นายจ้างได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม ซึ่งผลการใช้มาตรการดังกล่าว ในปี 2556 จะดำเนินการให้หนี้ค้างชำระลดลงได้เหลือ 2,000 ล้านบาท จากจำนวนหนี้ทั้งหมด 4,000 กว่าล้านบาท ทั้งนี้ ขอฝากนายจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม อย่าเบียดบังซ่อนเร้น ไม่ยอมจ่ายเงินสมทบให้ลูกจ้าง หากสำนักงานประกันสังคมตรวจพบ นายจ้างจะต้องจ่ายทั้งเงินสมทบพร้อมเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือนของเงินสมทบที่ยังไม่นำส่ง หรือส่วนที่ขาดอยู่จนครบ และถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ยังส่งผลกระทบต่อ ลูกจ้าง ผู้ประกันตน เพราะอาจขอรับสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขในการเกิดสิทธิประโยชน์ในแต่ละกรณีล่าช้า อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือไปยัง ลูกจ้าง/ผู้ประกันตน หรือผู้ที่พบเห็นการกระทำดังกล่าว แจ้งข้อมูลเบาะแส ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง/จังหวัด/สาขา/ที่ท่านสะดวก

ผู้ถาม : สปส.กระบี่
ส่งคำถามเมื่อ : วัน อังคาร ที่ 9 ตุลาคม 2555   เวลา 14 นาฬิกา 30 นาที