คำถาม :  “เปรียบเทียบนโยบาย 2 พรรคใหญ่ พรรคใดเป็นต่อ? ทำได้ทำไม่ได้?”
รายละเอียด : หัวข้อ
“เปรียบเทียบนโยบาย 2 พรรคใหญ่ พรรคใดเป็นต่อ? ทำได้ทำไม่ได้?”
คำชี้แจง : รายงานผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ฉบับนี้ เป็นการสำรวจความเห็นส่วนตัวของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งมิได้สื่อถึงแนวนโยบายขององค์กรที่นักเศรษฐศาสตร์สังกัดอยู่แต่อย่างใด
นักเศรษฐศาสตร์มองนโยบายหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์เหนือกว่าพรรคเพื่อไทย เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกตั้งให้กับประชาชน การสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ประจำเดือนนี้

ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
จึงได้ดำเนินการสำรวจเรื่อง“เปรียบเทียบนโยบาย 2 พรรคใหญ่ พรรคใดเป็นต่อ? ทำได้ทำไม่ได้?” โดยสำรวจความคิดเห็นจากนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำของประเทศ 26 แห่ง จำนวน 73 คน พบว่า
นักเศรษฐศาสตร์ประเมินนโยบายหาเสียงเชิงเปรียบเทียบ (นโยบายที่มีความคล้ายคลึงกัน) ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย จำนวน 9 นโยบาย พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ให้นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เหนือกว่าพรรคเพื่อไทยจำนวน 7 นโยบาย ส่วนนโยบายที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่าพรรคเพื่อไทยเหนือกว่ามี 1 นโยบาย คือ นโยบายปราบยาเสพติดให้หมดไปภายใน 12 เดือน ขณะที่นโยบายขยายบรอดแบนด์แห่งชาติ 3G อินเทอร์เน็ตชุมชนสู่ทุกตำบลทั่วประเทศภายใน 4 ปี ของพรรคประชาธิปัตย์ กับ นโยบาย Free WIFI เล่น Internet ในที่สาธารณะของพรรคเพื่อไทยนั้น นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่าเป็นนโยบายที่ดีพอๆ กัน

สำหรับการนำนโยบายไปสู่ภาคปฏิบัติว่านโยบายใดทำได้ นโยบายใดทำไม่ได้ พบว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ 9 นโยบาย มี 7 นโยบายที่นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าทำได้จริง ขณะที่อีก 2 คือนโยบายจัดการปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด จัดตั้งกองกำลังพิเศษ 2,500 นาย และนโยบายขยายบรอดแบนด์แห่งชาติ 3G
อินเทอร์เน็ตชุมชน สู่ทุกตำบลทั่วประเทศภายใน 4 ปี เป็นนโยบายที่เชื่อว่าไม่สามารถทำได้จริง ในส่วนของพรรคเพื่อไทย 9 นโยบาย มี 5 นโยบายที่เชื่อว่าทำได้จริง ขณะที่อีก 4 นโยบายเชื่อว่าไม่สามารถทำได้จริงคือ
นโยบายเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท นโยบายปราบยาเสพติดให้หมดไปภายใน 12 เดือน นโยบายทำรถไฟความเร็วสูงไปเชียงใหม่ โคราช ระยองและขยายแอร์พอร์ตลิงส์ ไปฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพัทยา นโยบายขยายรถไฟฟ้าให้ครบทั้ง 10 สาย แต่ละสายเก็บ 20 บาท

ส่วนนโยบายที่น่าสนใจอื่นๆ ของทั้ง 2 พรรค ซึ่งเลือกมาพรรคละ 3 นโยบายพบว่า นักเศรษฐศาสตร์มองว่านโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เป็นโยบายที่ดีทั้ง 3 นโยบาย ขณะที่นโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นนโยบายที่ดี 2 นโยบายและเป็นนโยบายที่แย่ 1 นโยบาย คือเครดิตการ์ดพลังงาน เพื่อเติมน้ำมันหรือก๊าซ NGV สำหรับคนขับแท็กซี่ สามล้อ รถตู้ และมอเตอร์ไซต์รับจ้าง

จากที่กล่าวมาพบว่า นโยบายที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่าเป็นนโยบายที่ดีที่สุดและสามารถทำได้จริงมี 2 นโยบายที่มีเปอร์เซ็นต์เท่ากัน คือ นโยบายเชื่อม กทม.-ปริมณฑล (นนทบุรี-ปทุมธานี-สมุทรปราการ) ด้วยรถไฟฟ้าระยะทาง 166 กม. ภายใน 5 ปี และนโยบายจัดให้มีบำนาญประชาชนหลังอายุ 60 ปี โดยรัฐร่วมสมทบในกองทุนการออมแห่งชาติ ของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนนโยบายที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่าเป็นนโยบายที่แย่มากที่สุดและไม่สามารถทำได้จริง คือ โครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร หรือเครดิตการ์ดชาวนา ควบคู่กับ
โครงการรับจำนำข้าวเปลือกเจ้าเกวียนละ 15,000 บาท/ข้าวหอมมะลิเกวียนละ 20,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย

ตาราง : สรุปความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เปรียบกับพรรคเพื่อไทย

พรรคประชาธิปัตย์
นโยบายที่ ดี-ดีเยี่ยม 12 นโยบาย
นโยบายที่ แย่-แย่มาก ไม่มี
นโยบายที่ ทำได้ 10 นโยบาย
นโยบายที่ ทำไม่ได้ 2 นโยบาย

พรรคเพื่อไทย
นโยบายที่ ดี-ดีเยี่ยม 9 นโยบาย
นโยบายที่ แย่-แย่มาก 3 นโยบาย
นโยบายที่ ทำได้ 7 นโยบาย
นโยบายที่ ทำไม่ได้ 5 นโยบาย


ที่มา http://research.bu.ac.th/poll/result/poll533.php?pollID=388&Topic=เปรียบเทียบนโยบาย 2 พรรคใหญ่ พรรคใดเป็นต่อ? ทำได้ทำไม่ได้?&fileDoc=poll533.pdf

สำหรับข้อเสนอเกี่ยวกับนโยบายต่อรัฐบาลชุดใหม่ นักเศรษฐศาสตร์ได้เสนอ 4 นโยบายที่สำคัญ
ด้วยกันคือ
(1) นโยบายปราบปรามคอร์รัปชันอย่างจริงจัง

(2) นโยบายปฎิรูปการศึกษาให้สอดคล้องกับนโยบายด้านแรงงานของชาติ

(3) นโยบายพัฒนาภาคการเกษตรเพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกร

(4) นโยบายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการป้องกันภัยพิบัติต่างๆ



(โปรดพิจารณารายละเอียดของผลสำรวจดังต่อไปนี้)


ผู้ถาม : เด็ก รปศ
ส่งคำถามเมื่อ : วัน พุธ ที่ 22 มิถุนายน 2554   เวลา 19 นาฬิกา 51 นาที
คำตอบที่ 1
รายละเอียด :  อย่ายึดนโยบายเลยครับ ขอแค่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่คิดทำแต่ประโยชน์
ส่วนตนก็เป็นวาสนาของประเทศไทยแล้ว

ผู้ตอบ : เบื่อหน่าย
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันพฤหัสบดี 23 มิถุนายน 2554   เวลา 9 นาฬิกา 21 นาที
คำตอบที่ 2
รายละเอียด :  ชูวิทย์ไม่มีนโยบาย บนเป็นฝ่ายค้านทำงานเข้มแข็ง ครั้งต่อไป จะต้องยึดกรุงเทพให้ได้28 ที่นั่ง เหมือนประชากรไทยยุคแรก หรือพลังธรรมยุคแรก นี่แหละใจคนกรุงเทพครับ ก็มันโดน เป็นไงล่ะ

ผู้ตอบ : ฟฟฟ
E-mail : ชูวิทย์ เบอร์ 5
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันศุกร์ 24 มิถุนายน 2554   เวลา 16 นาฬิกา 45 นาที