คำถาม :  ที่ดินโกอยู่เตั้งอยู่ในเขตป่าสงวน ไม่มี สค1 หรือ นส.3 ทำไมออกโฉนดได้??
รายละเอียด : ผมเป็นชาวบ้านหมู่ 1 ต.กระบี่น้อยเหมือนกัน มีที่พอสมควร แต่ไม่มาก มโหฬาร เป็นพันไร่เท่าของโกอยู่ แถมที่ก็อยู่ใกล้ๆกัน ทำไมของโกอยู่ออกโฉนดมาได้แล้วเป็นร้อยไร่ ปัจจุบันเหลือ 600 ไร่ แล้วทำไมของผมถึงออกโฉนดไม่ได้ ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้บอกว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติไสโป๊ะเหมือนกัน ท่านผูว่าจังหวัดกระบี่ครับ ทำไมที่คนจนออกโฉนดไม่ได้ แล้วทำไม่ที่ของคนรวยอย่างโกอยู่ถึงออกโฉนดได้ ผมว่าผมควรเอาเอกสารที่ดินผมไปร้องเรียน DSI ร้องหนังสือพิมพ์ ออกทีวีแบบโกอยู่บ้าง เห็นโกอยู่แกทำแล้วออกโฉนดได้ เผื่อว่าที่ของผมจะออกโฉนดได้บ้าง...
ผู้ถาม : อยากได้โฉนดมั่ง
E-mail : i_am_hai@hotmail.com
ส่งคำถามเมื่อ : วัน เสาร์ ที่ 19 มีนาคม 2554   เวลา 0 นาฬิกา 46 นาที
คำตอบที่ 1
รายละเอียด :  คนชั่วก็เจอคนชั่ว ก็เหมาะกันดีนี่คะ เค้าโดนเวรกรรมตามแล้วละคะ

ผู้ตอบ : น่าสงสาร
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันเสาร์ 19 มีนาคม 2554   เวลา 14 นาฬิกา 10 นาที
คำตอบที่ 2
รายละเอียด :  ที่ดินของคุณน้อยไปหรือปล่าวครับ เลยไม่มีใครออกโฉนให้ เพราะเมื่อบวกลบคูณหารแล้ว คนที่ทำให้คงไม่ได้อะไร คุณก็น่าจะรู้ ที่ดินแบบที่คุณครอบครอง ถ้าจะทำโฉนด ตัวหารมันเยอะ แต่ถ้ามีเป็นเกือบพันไร่แบบโกอยู่ น่าจะออกโฉนดได้ เพราะกว่าจะทำเสร็จโฉนดเสร็จ ที่ดินที่เหลือจะถูกแดดถูฝน หดหายไปสัก 30-40 % ที่เหลืออกกมาก็จะได้เป็นโฉนดไงครับ อย่าคิดมากเลยครับ อยูไปเรื่อยๆ สักวันคงออกได้ ที่สำคัญ อย่าถอนหรือโค่นต้นไม้ที่คุณทำกินทิ้งไปก็แล้วกัน เขาเรียกต้นไม้พวกนี้ว่าอาสิน ไม้ยิ่งโตก็ยิ่งเป็นหลักฐานว่าคุณอยู่มานานแล้ว

ผู้ตอบ : หัวอกเดียวกัน
E-mail : proffermeaw@hotmail.com
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันเสาร์ 19 มีนาคม 2554   เวลา 20 นาฬิกา 52 นาที
คำตอบที่ 3
รายละเอียด :  เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ใครที่ทำให้ เค้าก็อยากได้ค่าเหนื่อย ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆหรอกค่ะ นอกจากในหลวงท่านจะประทานให้

ผู้ตอบ : ปลง
E-mail : sendtopum@hotmail.com
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันเสาร์ 19 มีนาคม 2554   เวลา 21 นาฬิกา 16 นาที
คำตอบที่ 4
รายละเอียด :  จริงๆแล้วที่ดินดังกล่าวอยู่ในเขตของสำนักงานปฎิรูปที่ดิน
ซึ่งผมได้มีการกระจายสิทธิ์ให้กับลูกหลานตั้งนานแล้ว
แต่มีพวกมีอิทธิพลพยายามจะมาบุกรุกที่ดินของผม มันผิด
ด้วยหรือที่ผมตั้งใจทำงานจนมีที่ดินเป็นของตัวเอง ผมไม่เคย
โกงใคร แต่มีพวกนี้แหละที่ฮุบจะเอาที่ของผม ผมอยากให้ทุกคน
ทราบว่า
1.ผมใช้สิทธิ์ในการขอออกที่ดินโดยชอบด้วยกฏหมาย
2.พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นที่เขตป่าสงวน
3.ผมทำกินที่ดินดังกล่าวมากว่า 30 ปีและกำลังขอออกเอกสารสิทธิ์
สปก.
4.ที่ดินตรงนั้นสามารถตรวจสอบได้
5.ตอนนี้คนที่บุกรุกส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักการเมือง
ท้องถิ่น ผู้มีอิทธิพล

ผมมีเรื่องร้องเรียนถึงพี่น้องชาวกระบี่ ครับ

ข้าพเจ้านายบุญอยู่ ลิ้มชัยโพธิ์ทอง (สุนาเสวีนนท์) ได้
ทำอาชีพทำสวนมากว่า 30 ปี ซึ่งที่ดินบริเวณดังกล่าว
ข้าพเจ้าได้ทำการปลูกยางพารา ปลูกปาล์ม และสร้างที่อยู่
อาศัย ซึ่งในปัจจุบันพื้นที่บางส่วนข้าพเจ้าได้ตัดโค่นยาง
พารา เพื่อที่จะปลูกใหม่ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มี กำนัน
ตำบลกระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ได้นำลวดหนามมา
ล้อมรั้ว เพื่อจะนำที่ดินดังกล่าวไปเป็นที่เลี้ยงวัว ข้าพเจ้า
ได้ทำหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรม และทางศูนย์ฯได้รับ
และมีการพิจารณาแล้วจึงแต่งตั้งคณะกรรมการ และมี
ข้อสรุปตามหนังสือที่แนบ(สำนาหนังสือร้องศูนย์ดำรงธรรม
บันทึกข้อความ ส่วนราชการ ที่ทำการปกครองอำเภอ
เมืองกระบี่ ลงวันที่ 16 กันยายน 2553) ซึ่งทาง กำนัน
ตำบลกระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ได้ถอนรั้วออกไป ซึ่ง
ต่อมาข้าพเจ้าได้มีการปรับพื้นที่ ตัดหญ้า ขยายถนน
ซึ่งในระหว่างนั้นเองข้าพเจ้าก็ได้เตรียมพื้นที่เพื่อขอ
ออกเอกสารสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ในระหว่าง
นั้นได้มีผู้มาบุกรุกพื้นที่ของข้าพเจ้า โดยมีการกั้นรั้ว
ปลูกยางพารา และสร้างขนำ บนพื้นที่ของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าเคยไปแจ้งความกับเจ้าที่สถานีตำรวจภูธร
เมืองกระบี่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งความ
ข้าพเจ้าพยายามอดทน อดกลั้น แต่ผู้บุกรุกพยายาม
กรุกตลอด โดยจะอ้างผ่านชาวบ้านว่า ผู้บุกรุกมีเจ้าหน้าที่
ชั้นผู้ใหญ่ คอยสนับสนุนอยู่ และในพื้นที่เองก็มีนักการเมือง
ท้องถิ่นและผู้ปกครองท้องถิ่นสนับสนุนด้วย ทำให้ชาวบ้าน
หวาดผวา ไม่กล้าที่จะมาห้ามปรามผู้บุกรุก ซึ่งข้าพเจ้าเอง
ได้ติดต่อกับสำนักงานปฏิรูปที่ดิน เพื่อดำเนินการขอออกเอกสาร
สิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อเป็นแนวทางในการสกัดกั้น
จากผู้บุกรุก โดยข้าพเจ้าเองได้กระจายสิทธิให้กับลูกหลาน
และผู้เลี้ยงดูข้าพเจ้า โดยได้ไปดำเนินการในการสอบสิทธิ
ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดิน โดยมี เจ้าหน้าที่รังวัดชำนาญงาน สำนัก
งานปฏิรูปที่ดิน เป็นผู้เข้าไปประสานงานให้ ซึ่งในช่วงนั้น
เจ้าหน้าที่รังวัดชำนาญงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน มีลักษณะ
เหมือนกับว่ามีความสนิทสนมกับทาง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ซึ่ง
หลังจากการสอบสิทธิต้องมีการรับรองจากเจ้าหน้าที่ปกครอง
ท้องถิ่น ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่รังวัดชำนาญงาน จึงได้ไป
ประสานงานกับ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 เพื่อที่จะให้ ผู้ใหญ่บ้าน
หมู่ที่ 1 เป็นผู้รับรองสิทธิดังกล่าว แต่ทาง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่
ที่ 1 ได้กล่าวที่ดินของข้าพเจ้าบางส่วนได้ขายให้กับคนอื่น
ไปแล้วและบางส่วนเป็นของชาวบ้าน จะต้องลงไปทำ
การตรวจสอบก่อน หลังจากนั้น ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1
และ เจ้าหน้าที่รังวัดชำนาญงานพร้อมด้วยข้าพเจ้าได้
เข้าไปร่วมตรวจสอบในพื้นที่ โดยข้าพเจ้าให้ชาวบ้าน
ที่แสดงความจำนงว่าเป็นเจ้าของที่ดินเป็นผู้ชี้เขต
และแสดงสิทธิ ซึ่งในระหว่างการเข้าพื้นที่ ข้าพเจ้า
สังเกตเห็นกลุ่มของชาวบ้านบางส่วนพกอาวุธปืน
และอาวุธต่างๆ ในช่วงการเข้าไปตรวจสอบ เจ้าหน้าที่
รังวัดชำนาญงาน ได้ถามชาวบ้านว่าได้สิทธิมาอย่าง
ไร มีจำนวนเนื้อที่เท่าไร ปรากฏว่าชาวบ้านบางคนอ้าง
ว่ามีที่ประมาณ 7 ไร่ แต่เมื่อมีการใช้ เครื่องมือในการ
แสดงค่าพิกัดในการหาพื้นที่ ปรากฏว่าพื้นที่มีจำนวน
มากถึง 34 ไร่ และที่อื่นๆที่ชาวบ้านอ้างสิทธิประมาณ
หลายคนจำนวนเนื้อที่ประมาณ 180 ไร่ และมีพื้นที่ๆ
ทาง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ได้อ้างว่าข้าพเจ้าได้ขาย
ไปให้กับบุคคลอื่นอีกประมาณ 80 ไร่ หลังจากการตรวจ
สอบสิทธิเสร็จ ข้าพเจ้าได้ประสานกับ เจ้าหน้าที่รังวัด
ชำนาญงาน ว่าถ้าพื้นที่ไหนที่ไม่มีปัญหาก็ขอให้ทาง
ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 รับรองสิทธิ ถ้าพื้นที่ไหนมีปัญหาก็
ไปฟ้องร้องกันต่อไป หลังจากนั้นทางรังวัดชำนาญ ได้
ประสานกลับมาว่า ทาง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ถ้าต้องการ
ให้รับรองสิทธิต้องเสียค่าจ่ายมาก่อน โดยคิดไร่ละ 500 บาท
ข้าพเจ้าจึงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมของ ผู้ใหญ่บ้าน
หมู่ที่ 1และ เจ้าหน้าที่รังวัดชำนาญ ดังต่อไปนี้
1.พื้นที่ๆมีกลุ่มบุคคลมาบุกรุกในพื้นที่ของข้าพเจ้า เป็น
พื้นที่เดียวกันกับที่ กำนันตำบลกระบี่น้อย อ.เมือง
จ.กระบี่ ได้นำลวดหนามมาล้อมรั้ว เพื่อจะนำที่ดินดัง
กล่าวไปเป็นที่เลี้ยงวัว ทำไมกลุ่มบุคคลนั้นไม่มา
ทำการแจ้งความ หรือคัดค้านการกระทำของ
กำนันตำบลกระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ในพื้นที่ๆตนเอง
ครอบครองอยู่ และในสำนาหนังสือร้องศูนย์ดำรงธรรม
บันทึกข้อความ ส่วนราชการ ที่ทำการปกครองอำเภอ
เมืองกระบี่ ลงวันที่ 16 กันยายน 2553 ซึ่งทาง ผู้ใหญ่บ้าน
หมู่ที่ 1 ก็เป็นคณะกรรมการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้า
ที่ปกครองอำเภอกระบี่ จะไม่รู้เลยหรือว่าที่ดินดังกล่าว
เป็นของใครและที่ดินของข้าพเจ้าบางส่วนทาง ผู้ใหญ่บ้าน
หมู่ที่ 1 อ้างว่าเป็นที่ของตนโดยมีเอกสารซึ่งตอนแรก
บอกว่าเป็น นส.2 ซึ่งภายหลังบอกว่าเป็น สค.1 ซึ่ง
บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ของสปก. ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1
ไม่รู้เลยหรือว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สปก. แล้ว
ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ได้เอกสารอื่นได้มาอย่างไร
2.ที่ดินบางส่วนของข้าพเจ้าที่ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1
อ้างว่า ข้าพเจ้าได้ขายไปให้กับคนอื่นแล้ว
ได้รับรองสิทธิและเข้าไปในคณะกรรมการขอ
เอกสารสิทธิ สปก. ระดับอำเภอแล้ว สัญญาซื้อ
ขายดังกล่าวที่ข้าพเจ้าเพิ่งเห็น เป็นการปลอมแปลง
ข้อมูลหลักฐาน โดยมี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 เป็นพยานในการซื้อขาย


จึงเรียนมาเพื่อทราบและโปรดพิจารณาให้ความ
เป็นธรรมแก่ข้าพเจ้า เพื่อให้ข้าพเจ้าได้กลับสู่ภูมิลำเนา
จังหวัดกระบี่ ได้อย่างปลอดภัยในบั้นปลายชีวิตของข้าพเจ้า
(ปัจจุบันอายุ 70 ปี) ควรมิควรแล้วแต่โปรดกรุณา


(นายบุญอยู่ ลิ้มชัยโพธิ์ทอง(สุนาเสวีนนท์))
ราษฎรผู้ร้องขอความเป็นธรรม


ผู้ตอบ : โกอยู่
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันอาทิตย์ 20 มีนาคม 2554   เวลา 12 นาฬิกา 59 นาที
คำตอบที่ 5
รายละเอียด :  โกอยู่ จริงมายนิ เห็นก๊อปวาง ก๊อปวาง หลายกระทู้แล้ว สงสัย

ผู้ตอบ : กลุ่มเพื่อนเสรี
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันอาทิตย์ 20 มีนาคม 2554   เวลา 17 นาฬิกา 52 นาที
คำตอบที่ 6
รายละเอียด :  โกอยู่...หรือ...โกไม่อยู่...คับ

ผู้ตอบ : กกกกก
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันอาทิตย์ 20 มีนาคม 2554   เวลา 20 นาฬิกา 59 นาที
คำตอบที่ 7
รายละเอียด :  น่าจิเป็นโกไม่อยู่ครับ เห็นด้วยกับผู้ตอบข้อที่ 5 คือก๊อปแล้ววาง ก๊อปแล้ววาง คำตอบเหมือนๆกันทุกระทู้ โกอยู่น่าจะไม่ได้ตอบเอง คำตอบคือ... โกไม่อยู่ครับ

ผู้ตอบ : ข้อสงสัย
E-mail : i_am_hai@hotmail.com
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันจันทร์ 21 มีนาคม 2554   เวลา 5 นาฬิกา 47 นาที
คำตอบที่ 8
รายละเอียด :  ผมว่าเจ้าหน้าที่ที่ดินคงจะมีการตรวจสอบแล้วว่าออกโฉนดได้

การออกโฉนดเฉพาะราย ตามมาตรา ๕๙ ครับ

มาตรา ๕๙ ในกรณีที่ผู้มีสิทธิครอบครองที่ดิน (ไม่ว่ามี สค.๑
ใบเหยียบย่ำ ใบตราจอง หรือไม่มีก็ตาม ) มาขอออกโฉนด
ที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นการเฉพาะราย
ไม่ว่าจะได้มีประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา ๕๘ แล้วหรือ
ไม่ก็ตาม เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควร ให้ดำเนิน
การออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แล้ว
แต่กรณี ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประมวลกฎหมายนี้
กำหนด คือไปยื่นคำขอรังวัดเพื่อออกโฉนดที่สำนักงานที่ดิน
ท้องที่ที่ที่ดินของเราตั้งอยู่ หรืออาจไปยื่นคำขอรังวัดออก
โฉนด ที่ศูนย์เดินรังวัดออกโฉนดประจำจังหวัดหรือเขตได้
เลยครับ แต่ที่ทราบมาค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าออกโฉนดแบบ
ทั้งจังหวัดครับ

ซึ่งหลักเกณฑ์จะเหมือนกัน คือต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้ครอบ
ครองที่ดินและทำประโยชน์ในที่ดินที่จะขอออกโฉนดจริง
เมื่อยื่นคำขอแล้ว จะมีการส่งหนังสือให้แก่เจ้าของที่ดินข้าง
เคียง ให้ไปทำการระวังชี้แนวเขต
เมื่อเราทำการนำเจ้าพนักงานรังวัดไปชี้แนวเขตแล้ว หาก
ไม่มีผู้ใดคัดค้าน และที่ดินที่เราไปขอนั้น อาจออกโฉนดที่
ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ตามประมวลกฎหมาย
นี้ คือไม่เป็นที่สาธารณะ ที่หลวง เขตป่าสงวน เป็นต้น
ทางราชการก็จะออกโฉนดให้ครับ

แต่หากมีการคัดค้าน ทางที่ดินจะระงับการออกโฉนดไว้ก่อน
และแจ้งให้ผู้ขอออกโฉนดและผู้คัดค้านไปใช้สิทธิต่อสู้เรื่อง
สิทธิครอบครองต่อศาลยุติธรรม ภายใน ๖๐ วันนับแต่ทราบเรื่อง
การคัดค้าน หากศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งประการใด ก็ดำเนิน
การไปตามนั้นครับ

ผู้ตอบ : ข้าราชการเกษียณ
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันจันทร์ 21 มีนาคม 2554   เวลา 18 นาฬิกา 6 นาที
คำตอบที่ 9
รายละเอียด :  โกอยู่แกโง่ เป็นคนแก่บ้าเซ็กส์ ชอบมีเมียเด็กๆ ให้เค้าหลอกๆไปแถอเครับ เดี๋ยวแกหมดตัว พ่อแม่พี่น้องชาวกระบีคอยดูแล้วกัน แกหาเรื่องเขาไปหมด เดี๊ยวเวรกรรมก็ตามสนองแกเองแหละ

ผู้ตอบ : เวรกรรมของแก
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันเสาร์ 30 เมษายน 2554   เวลา 0 นาฬิกา 42 นาที