คำถาม :  นายกตอแหล
รายละเอียด : ถึงคนที่กำลังหลงภาพลักษณ์และเกิดการลังเลหลังจากดูรายการพิเศษของนายก ว่าควรไปแสดงพลังวันที่ 25 นี้หรือไม่ หรือจะไม่ไปดี

- ผมก็เป็นคนนึงครับที่ตั้งใจจะไปร่วมชุมนุมวันที่ 25นี้ แต่พอหลังจากฟังแถลงการณืพิเศษของนายกทำให้ลังเลไปพักนึงเหมือนกัน แต่หลังจากนั่งพินิจพิเคราห์ครุ่นคิดอยู่นาน ก็ตกผลึกออกมาเป็นภาษาชาวบ้านๆถึงที่มาที่ไป และเหตุผลที่เราต้องไปร่มชุมนุมวันที่ 25 ได้ดังนี้ พื้นที่ที่มีการพิพาทเป็นของไทยแน่นอนจากหลักฐานและพยานต่างๆทั้งเอกสารสิทธิ์ คำตัดสินศาลโลกรวมไปถึงสามัญสำนึกง่ายๆว่าหมู่บ้านให้ผู้ลี้ภัยมันต้องอยู่ในประเทศที่3 ซึ่งก็คือไทยแน่ ที่มันเกิดปัญหาขึ้นเนื่องจากว่า เมื่อหลายสิปก่อนเขมรมีการสู้รบฆ่าล้างเผ่าพันธ์ ทำให้ผู้อพยพชาวเขมรจำนวนมากอพยพหนีมาอยู่ตรงหมู่บ้านหนองจาน ซึ่งองค์การสหประชาชาติขอความร่วมมือจากไทยให้ช่วยจัดสรรดินแดนไปเป้นค่ายลี้ภัย หลังสงครามในกัมพูชาสิ้นสุด ก็ไม่ได้มีการผลักดันชาวกัมพูชาเหล่านี้กลับประเทศไป ซึ่งไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด เวลาผ่านมาหลายปีการค้าบริเวณนั้นเฟื่องฟู ผู้คนค้าขายมีความสุข ทำให้คนไทยลืมนึกไปว่านี่เขามาเอาแผ่นดินเราไปอยู่นะ ส่วนกัมพูชาก็ถือว่าไม่มีใครมาไล่ เหตุการณ์ก็เป้นแบบนี้มาเรื่อยๆ จนปี 2543 ในสมัยรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย ได้ทำการเจรจาต่อรองกับกัมพูชา โดยขอพูดเป็นภาษาชาวบ้านดังนี้ ''นี่ๆคุณที่ๆคุณอยู่หน่ะที่ของประเทศผมนะ'' กัมพูชาเลยแย้งว่า ''อ้าวผมก็อยู่ตรงนี้มาตั้งหลายสิบปีแล้ว ไมอยู่ๆคุณจะมาเอาคืน ไม่อ่ะผมจะอยู่'' ด้วยความเข้มแข็งของรัฐบาลประชาธิปัตย์ จึงเสนอข้อตกลง ''นี่ผมไล่ดีๆไม่ไปใช่มั้ย'' เขมรก็ตอบ ''แล้วไงล่ะ เอ๊งจะทำไม'' รัฐบาลจึงเสนอแนวคิด ''งั้นเรามาทำสัญญาที่เรียกว่า สัญญาเชีญคุณมาอยู่บ้านฉันอย่างสันติ แปลงดินแดนไทยเป็นดินแดนพิพาทเสีย คุณตกลงไหมแล้วเราค่อยมาเจรจาปักปันดินแดนกันอีกที'' เขมรก็ยิ้มสิครับ ไอนี่บ้าป่าวที่ตัวเองเอามาทำเป็นที่พิพาทหวานสิกรู ก็เซ็นข้อตกลงกันกลายเป็น MOU43 จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งที่ผ่านมารัฐไทยกอด MOU43 นี้ไว้แน่น ไม่รูด้วยเหตุผลกลใดทำให้รัฐไทยเชื่อเหลือเกินว่ามันมีประโยชน์ เรื่องราวก็ดำเนินมาอย่างเงียบๆ โดยที่ประชาชนคนไทยไม่รู้ จนเรื่องมาแดงขึ้นตอนเขมรจะยกเอาปราสาทเขาพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลก จึงค่อยมีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบหาที่มาที่ไป ทีนี้อะไรๆที่ซ่อนไว้เริ่มปรากฎสู๋สายตาชาวบ้านมากขึ้น จนถึงเหตุการณืปัจจุบัน เกิดกรณีสำคัญขึ้นอย่างน้อย 2 เหตุการณ์คือกรณี ปักป้ายหินบนวัดแถวปราสาทพระวิหาร กับเรื่อง 7คนไทย ถูกจับตรงดินพิพาทตามสนธิสัญญา เชิญมาอยู๋บ้านฉันอย่างสันติ กรณีแรกป้ายหิน ทางการไทยและกัมพูชาตกลงเรื่องการถอนทหารทั้ง2ฝ่าย ออกจากดินแดนเขาพระวิหาร ซึ่งก่อนมี MOU43 ทหารไทยได้ปกป้องดินแดนตรงนั้นอย่างสุดความสามารถ แต่เมื่อมีสัญญานี้ทำให้ทหารไทยทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มองกัมพูชาลุกล้ำตาปริบๆ หลังจากทำการตกลงเรื่องถอนทหาร ทั้ง2 ฝ่ายก็ค่อยๆถอนทหารตัวเองออกไป โดยฝ่ายไทย เริ่มถอนทหารก่อน และเขมรค่อยถอนตาม จนสุดท้ายไม่เหลือทหารไทยประจำอยู่ตรงดินแดนแถบนั้นแม้สักคนเดียว แต่แทนที่เขมรจะถอนทหารออกไปทั้งหมดเหมือนไทย แต่กลับเอาป้ายหินมาปักไว้ ระบุว่า ''ดินแดนแถบนี้เป็นที่ของกัมพูชาซึ่งถูกไทยรุกรานมาก่อน'' แบบนี้ไม่ต้องให้นักวิชาการหน้าไหนมาบอก แค่เด็ก ป.4 ยังรู้เลยครับ ว่ารัฐไทย ประชาชนชาวไทยงานนี้เรียกว่า '' เสียหมาครับ'' เขมรไม่ทำตามข้อตกลงตามสัญญามาอยู่บ้านฉันอย่างสันติ เป็นการตบหน้ารัฐบาลไทยอย่างแรง แต่เราก็ยังเฉย เหตุการณ์ต่อมาเป็นเหตุการณ์ที่คนไทยทั้ง 7 คน ถูกจับ อันนี้ไม่รู้ใครชวนใครไปไม่ทราบครับ แต่ไม่ทราบคุณศิริโชค โสภานำมาเป็นประเด็นทำซากอะไร ไม่มีอะไรจะแถแล้วมั้ง(ครับ) ประเด็นคือ มีชาวบ้านมาร้องเรียนให้ช่วยไปตรวจสอบที่ดินของเขาซึ่งมีเอกสารสิทธิ์ มีตราครุท รับรองและเสียภาษีให้รัฐทุกปีแต่ไม่สามารถเข้าไปทำกินในที่ดินนั้นได้ เพราะถูกทหารกัมพูชามาวางกำลังเอาไว้ 7 คนนี้ก็เข้าไปตรวจสอบ และถูกจับซึ่งยังไม่ชัดว่าถูกจับตรงไหน ถ้าเป็นอย่างที่นายกบอกคือถูกจับหลังเส้นปฎิบัติการณ์ ซึ่งพวกงมหอยโข่งไม่หาข้อมูลคงนึกว่าไอฝั่งขวาที่นายกลากมันคือดินแดนกัมพูชา แต่ข้อย้ำว่ามันเป็นแค่หลังเส้นปฎิบัติการหลวมๆที่ลากไว้ ซึ่งตามสัญญา''มาอยู่บ้านฉันอย่างสันติ'' ระบุไว้ชัดเจนว่าถ้ามีการรุกร้ำดินแดนให้ใช้การเจรจา ห้ามนำเอาไปขึ้นศาลของตน คราวนี้กัมพูชากระทืบไทยซ้ำโดยการจับคนไทยขึ้นศาล รัฐไทยก็ดีใจหาย แทนที่จะแข็งกร้าวหรืออย่างน้อยๆก็ต้องประท้วง ก็ให้เขมรโปรดเห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีปล่อยคนของเรามาเถอะนะ เขมรก็กร้าวไม่ปล่อยคนไทยเด็ดขาด ตลกมากวิธีของรัฐบาลคือเกลี้ยกล่อมให้คนไทยยอมรับ และขอแนวทางการอภัยโทษ น่าเศร้าครับที่ดินของไทยของในหลวงแต่ให้ไปขออภัยโทษกับกษัตริย์กัมพูชา พอ5คนได้รับการปล่อยตัว ยังไปกราบขอบคุณเค้าอีก มันเป็นความอัปยศมั้ยล่ะครับ จาก 2 เหตุการณ์นี้ทำให้เห็นชัดๆๆๆๆแล้วว่า เขมรไม่สนใจสัญญา ''มาอยู๋บ้านฉันอย่างสันติ'' ที่พี่ไทยหยิบยื่นให้อีกต่อไป ประมาณว่าที่เมิงจะให้กรูที่เมิงจะแบ่งกะกรู กรูไม่อาวแล้วกรูจะอาวหมดเมิงมีไรมั้ย เจริญครับที่เราไปแบ่งให้แล้วยังไม่พอ เขมรมันจะเอาทั้งหมดครับ และที่นายกบอกว่าผลการตัดสินของศาลไม่เกี่ยวข้องกับอธิปไตยเหนือดินแดน คุณลองใช้สามัญสำนึกนะครับ ไม่ต้องใช้ความรู้ทางกฎหมายเลย สมมุติถ้าคุณเป็นคนนอกเห็น ประเทศ 2ประเทศรบกันเรื่องดินแดน ประเทศนึงจับคนของอีกฝั่งไปขึ้นศาลและอีกฝั่งไม่โต้แย้ง เป็นคุณๆจะคิดอย่างไร มันก็ต้องเป็นที่ของประเทศที่ศาลมีอำนาจ จริงมั้ยครับ ไม่ต้องใช้หลักกฎหมายอะไรเลย น่าเศร้าครับรัฐบาลทำตัวน่าตลกมากๆ ทั้งหมดนี้ทำให้สรุปได้ว่าต้นตอของปัญหาล้วนมีที่มาจก MOU43 ครับ ซึ่งรัฐบาลมองว่ามันคือเกราะวิเศษที่จะทำให้ไทยไม่เสียดินแดน แต่ขอโทษครับเสียไปแล้ว และจะเสียมากขึ้นกว่านี้อีกท่ารัฐยังปวกเปียกแบบนี้ MOU43 ไม่ใช่เกราะแต่เป็นเชือกผูกคอรัฐไทยให้ใบ้แดรกทำไรไม่ได้ครับ กับข้อ 5ที่ว่า ห้ามมีการเปลี่ยนลักษณะภูมิประเทศ เขมรหวานอีกละครับ นั่นหมายความว่า ถ้ายังตกลงกันไม่ได้ ชาวเขมรก็ยังอาศัยอยู่ตรงนั้นได้ต่อไปเรื่อยๆ อีกทั้งข้อ8 คือ ห้ามใช้กำลัง ทหารไทยทำงานลำบากครับ MOU43 ไม่รู้จะเรียกมันยังไง ''สัญญามาอยู่บ้านฉันอย่างสันติ'' จานไรเอ้ย คนไทยส่วนใหญ่ไม่ไตร่ตรองหาความจริงหลับหูหลับตาติดสบาย กลัวแค่ว่าคนชุมนุมแล้วกรูจะเดือดร้อน คิดกันอยู่แค่นั้นจริงๆ ผมว่าถึงเวลาแล้วครับที่พวกที่เป็นกลางทั้งหลายจะต้องเลือกแล้วระหว่าง 1.ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรฐกิจการค้าชายแดน กับความสงบสุขโดยรวม กับ 2. ดินแดน อธิปไตย และเหนือสิ่งอื่นใดความภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีของความเป้นชาติไทย ที่ใครจะมาเหยียบย่ำไม่ได้ ถึงเวลาต้องเลือกจริงๆครับ จะมาทำตัวลอยไปลอยมาใครจะทำไรก็ทำมันไม่ได้แล้วครับ หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าที่ผมพยามสื่อสารนี้จะเป็นประโยชน์ขึ้นมาบ้าง

ความแข็งกร้าวไม่ได้นำมาซึ่งสงครามเสมอไปนะครับ ความแข็งกร้าวหมายถึงการที่เรารักษาสิทธ์
ขอยกคำพูดของนายกหรือประธานาธิดีก็ช่างผมไม่รู้ของเกาหลีใต้มาพูดว่า ‘’ถ้าเรากลัวสงคราม เราจะแพ้ตลอดไป’’

แต่ก็ใช่ว่าจะอยากให้เกิดสงคราม เพราะการทำสงครามนั้นมันก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายด้วยเหมือนซึ่งมองเห็นแล้วว่ายากและกำลังทหารและอาวุธถ้าทำสงครามกันจริงเขมรก็ไม่สามารถต่อกรอะไรได้ มันก็ยากที่จะเกิด

เพราะฉะนั้นมันเป็นเพียงคำพูดของอภิสิทธิ์ ที่หยิบยกขึ้นมาให้คนที่ไม่ค่อบรู้อะไรตกใจไปตามคำพูดนายกที่เก่งโวหารเข้าหยิบยกในคำพูดที่ดูแล้วน่ากลัวและเคลิ้ม คล้อยตามกับคำพูดของคนตอแหลและลูกกระจ๊อกศิริโชคที่ให้ข้อมูลแบบไม่ค้นคว้ามาก่อน (ถ้าดีเบตกับข้อมมูล พธม. มันคงไม่กล้า เสียหมาเลยครับ) สรุปว่า งานนี้ตอแหล ทั้งข้อมูลและหลักฐาน ทั้งที่มีหลักฐานของชาวบ้าน หลักฐานสิ่งแวดล้อม ทั้งโฉนดและ สค1. ที่มีตราครุฑบนหัวกระดาษ มันก็ไม่ออกมาอธิบายให้หมด ทุเรศไอ่รูปหล่อนี้จริงๆ
ผู้ถาม : ตอบหน่อย
ส่งคำถามเมื่อ : วัน จันทร์ ที่ 24 มกราคม 2554   เวลา 18 นาฬิกา 21 นาที
คำตอบที่ 1
รายละเอียด :  ไม่มีสมอง แทนที่จะเอาความคิดเองมาโพท หรือย่อข้อมูลที่จะนำมาลง พี่แก่ถนัดงานแบบลิ้มๆ ก๊อปมาทั้งยวง แถมยาว ชนิดคนเข้ามาขี้เกียจอ่าน เลยได้เป็นแค่ ขยะไม่ใช่ข้อมุล กระทุ้หน้าพี่จะพูดเรื่องพื้นที่ชายแดนไทยเขมร ให้น้องตอบหน่อยอ่าน และสามารถโต้แย้ง ตอบไปมาคนละ ความเห้นแบบ สาระข้อมูล (ขอเป็นการกลั่นกรองข้อมูลแล้วโพท ไม่เอาแบบก็อปมาลงยาวๆละ) คอยติดตาม...........

ผู้ตอบ : ยึดกติกา
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันอังคาร 25 มกราคม 2554   เวลา 8 นาฬิกา 11 นาที
คำตอบที่ 2
รายละเอียด :  คนที่ว่านายกตอแหล ทำไมถึงได้ไปหลงแต่พันทมิตร ว่าง ๆ บอกสนธิให้ไปเป็นนายกบ้างซิ ไม่ใช่เอาแต่ด่าคนอื่น อยู่แบบนี้

ผู้ตอบ : คนกระบี่
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันอังคาร 25 มกราคม 2554   เวลา 13 นาฬิกา 53 นาที
คำตอบที่ 3
รายละเอียด :  ทำมาหากินกันบ้างเถอะพี่น้อง ไม่ใช่เอะอะก็ชุมนุม เดี๋ยวเหลือง เดี๋ยวแดง....การท่องเที่ยวจะชิบหายก็เพราะพวกนี้แหละ....เอาเวลาช่วยเหลือเกื้อเราลตัวเองและครอบครัวดีกว่ามั่ง? ตัดยาง แทงปาล์มก็ได้ ช่วงนี้ราคาดีอยู่ ทำงานดีกว่าไม่จน...ตนเท่านั้นเป็นที่พึ่งแห่งตน...อย่าไปหวังพึ่งใคร...และอย่าไปตกเป็นเครื่องมือหรืออำนาจต่อรองของใคร

ผู้ตอบ : กระบี่ดั้งเดิม
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันพุธ 26 มกราคม 2554   เวลา 9 นาฬิกา 30 นาที
คำตอบที่ 4
รายละเอียด :  ขำจริงๆ พวกไม่รู้สถานการ์บ้านเมือง ประเทศไทยต้องเหนื่อยก็เพราะมีประชากรอย่างนี้แหละ

ถึงจะก็อป ถ้ามีเหตุผลอย่างหลักการพันธมิตรก็คิดว่าจะนำมาคิดบ้าง

ไม่ใช่อยู่อย่างแดง เผาห้าง เผาศาลากลาง แล้วอยู่เฉยไม่ปริปากอย่างนายยึดกติกา

ผู้ตอบ : ตึกร้างหลังงาน
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันพุธ 26 มกราคม 2554   เวลา 16 นาฬิกา 16 นาที
คำตอบที่ 5
รายละเอียด :  เหตุการณ์บ้านเมืองแต่ละเหตุการณ์ ให้พิจารณาเป็นเรื่องๆไป นะครับ อย่าติดยึดและเข้าข้างเหลือง หรือเข้าข้างแดง จนไม่มีเหตุผล ฉะนั้นจะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้หรอก แต่คราวนี้เรื่องคนไทยถูกจับ รัฐบาลชั่วแน่นอน คนไทย 7 คน ถ้าหากผิดก็ไม่ใช่จะร้ายแรงอะไร รัฐบาล.....ซวย หัวใจไม่นักเลง หัวใจมด ดีแต่พูดเก่ง ซื้อใจคนไทยไม่ได้หรอก คนเป็นผู้นำหัวใจต้องนักเลง(ไม่ใช่เจ้าพ่อ) ประชาชนเห็นเจอแล้วรู้สึกอบอุ่น สามารถปกป้องบริวาร ลูกน้องได้

ผู้ตอบ : เกลียดรัฐบาล
ส่งคำตอบเมื่อ :  วันพุธ 2 กุมภาพันธ์ 2554   เวลา 13 นาฬิกา 1 นาที