คำถาม : ประชาธิปไตยในสถานศึกษามีจริงหรือ?
รายละเอียด : ประเทศไทยมีการปกรองระบอบประชาธิปไตยมาเป็นเวลาหลายศตวรรษแล้ว รากฐานะที่แท้จริงของประชาธิปไตยนั้นก็คือ "ความแตกต่าง" จุดประสงค์ของประชาธิปไตยก็คือ "การยอมรับความแตกต่างนั้นๆ" และ เป้าหมายของประชาธิปไตยก็คือ "การทำให้ความแตกต่างเหล่านั้นสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยสงบสุขและไม่เบียดเบียนหรือละเมิดสิ่งที่แตกต่างเหล่านั้น"
สถานศึกษาถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญอย่างยิ่งในการสร้าง ปลูกฝัง และพัฒนาประชาธิปไตยของผู้ที่อยู่ในวัยเรียน วัยศึกษา หรือก็คือนักเรียน นักศึกษานั้นเอง บุคคลเหล่านี้มีหน้าที่ที่สำคัญในอนาคตก็คือ นอกจากจะเป็นคนดีและพัฒนาประเทศแล้ว ยังต้องรักษาระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยของประเทศอีกด้วย(จนกว่าจะมีระบอบการปกครองใหม่ที่ประชาคมโลกเห็นว่าดีกว่าประชาธิปไตย) ซึ่งในรัฐบาลชุดปัจจุบัน มีการดำเนินงานนโยบาย3Dขึ้น 1.ใน3ขอนั้นมีเรื่องการปลูกฝั่งประชาธิปไตยเกี่ยวข้องอยู่ด้วย
แต่ว่า!!! ประชาธิปไตยในสถานศึกษามีจริงหรือ...
นี่คือคำถามที่ผู้เขียนตั้งคำถามอยู่ในใจมาเป็นเวลากว่า 8 ปีแล้ว นับตั้งแต่ผู้เรียนยังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพราะในชีวิตของผู้เขียนนั้น ผู้เขียนได้เจอะเจอะกับสิ่งที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและบางครั้งถึงกับขั้นละเมิดสิทะของผู้เขียนเองก็มีหลายครั้งหลายคราด้วยกัน ทั้งการแบ่งชนชั้นทางฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม การแบ่งคนที่ผลการเรียน การแบ่งคนที่คนเก่งเป็นต้น
ฐานะทางเศรษฐกิจและการเรียน(ในสมัยนั้น)ของผู้เขียนนั้นอยู่ในฐานะปานกลาง พอมีพอกิน เรียนได้เรื่อยๆ ตลอดเวลาที่ผู้เขียนศึกษาอยู่ในสถานศึกษาในระบบแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ หลายครั้งที่ผู้เขียนและคนอื่นๆได้รับการปฏิบัติจากผู้สอนและเจ้าหน้าที่ของสถานศึกษาดังกล่าวอย่างไม่เท่าเทียมกัน คนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีหรือคนที่เรียนเก่งจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ผิดกับคนที่ฐานะทางเศรษฐกิจและการเรียนอยู่ระดับกลางถึงล่าง มักจะได้รับการปฏิบัติอีกแบบหนึ่ง ไม่ค่อยเอาใจใส่จนถึงขั้นปล่อยปะละเลยก็มี
จากการกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นได้เห็นชัดว่า บุคคลเหล่านี้กำลังทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตราที่ 30 ซึ่งได้บัญญัติไว้ว่า
บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน
ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน
การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด
เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทาง
เศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อ
บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้
มาตรการที่รัฐกำหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพได้
เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม
จากบทบัญญัติดังกล่าวจะเห็นได้ว่า บุคคลทุกคนต้องได้รับบการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าบุคคลเหล่านั้นจะมีข้อแตกต่างในเรื่องใดๆก็ตาม แต่ทุกวันนี้เราก็ยังคงเห็นการปกฺบัติอย่างไม่เท่าเทียมกันนี้อยู่ทุกเวลา
หลายๆครั้งหลายๆคราที่ผู้เรียนถูกกีดกันและถูกละเมิดสิทธิในการแสดงความคิดเห็น ผู้เรียนที่แสดงความคิดเห็นไปจากผูสอนและเจ้าหน้าที่ของสถานศึกษาถือว่าเป็นคนไม่ดี? นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่จวบจนทุกวันนี้ โดยความที่สังคมไทยได้ปลูกฝังความคิดที่ว่า "ผู้เรียนต้องเชื่อฟังผู้สอน" จึงกลายเป็นว่า สิ่งที่คิดหรือแสดงออกนอกจากที่ผู้สอนบอกนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดและเป็นสิ่งที่ไม่ดี และรวมไปถึงสิทธิเรียกร้อง สิ่งที่ดีและสิ่งที่ถูกต้อง รวมไปถึงสิทธิในการวิพากวิจารณ์ผู้สอนตามระบอบประชาธิปไตยซึ่งผู้เรียนต้องมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องในสิ่งที่ดีและถูกต้องทุกอย่างต้องมาจากและเป็นไปตามความคิดของผู้สอนและเจ้าหน้าที่อย่างเดียวเท่านั้น ผู้เรียนไม่สามารถแสดงความคิดเห็นอะไรได้เลย
และสิ่งที่ผู้เขียนได้ตระหนักอยู่ตลอดมาก็คือ " การคัดแยกห้องคนที่เรียนเก่งไปจนถึงห้องคนที่เรียนอ่อน" การแบ่งห้องดังกล่าวพูดได้ว่า เป็นการขัดต่อระบอบประชาธิปไตยอย่างชัดเจน เพราะการแบ่งห้องดังกล่าวมันก็ไม่ต่างอะไรกับการแบ่งชนชั้นทางการเรียน เหมือนที่ปัจจุบันสังคมไทยมีการแบ่งชนชั้นทางฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมอยู่หลวมๆ ซึ่งการแบ่งห้องดังกล่าวก็เกิดการละเมิดสิทธิของผู้เรียนอย่างมากมาย ทั้งการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมกัน การดูแลเอาใจใส่ รวมทั้งความก้าวหน้าทางการเรียนของผู้เรียนที่แตกต่างกัน ตราบใดที่ยังมีการแบ่งห้องกันอยู่แบบนี้ ตราบนั้นก็จะไม่มีความเท่าเทียมอยู่เลยในสถานศึกษานั้นๆ
ถ้าสถานศึกษายังเป็นแบบความข้างตนหรือเรื่องอื่นๆที่ขัดต่อระบอบประชาธิปไตยอยู่ต่อไป ในสถานศึกษาก็ยังคงไม่ได้ปลูกฝังระบอบอประชาธิปไตยอยู่นั้นเอง ถ้าต้องการส่งเสริมประชาธิปไตยอย่างแท้จริงนั้น ต้องเปิดใจให้กว้างและให้ผู้เรียนมีสิทธิในเรื่องต่างๆให้มากกว่านี้ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ควรมีการพัฒนาประชาธิปไตยในสถานศึกษาซึ่งเป็นสถานผลิตอนาคตของชาติเหล่านี้ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป แล้วประชาธิปไตยที่ทุกคนเรียกร้องมาหลายๆครั้งนั้นจะเป้นอย่างไรต่อไป
16/09/2552
ผู้ถาม : Shadow moon
ส่งคำถามเมื่อ : วัน พุธ ที่ 16 กันยายน 2552 เวลา 11 นาฬิกา 38 นาที
คำตอบที่ 1
รายละเอียด : ก็ว่าๆกันไปตามนโยบาย..เช้าชามเย็นชามค่ะ..รัฐบาลใหม่สมัยหน้าก็ว่าไปอย่างหนึ่งธรรมดานักการเมือง...ทำใจเถอะคะ...ประเทศไทย..เวียตนามเขาแซงไปแล้วคะ..ต่อไปพม่า...ลาว...เขมร...ตอนนี้พม่าเขาไปแล้ว..เขาไปแล้ว...เห็นยัง...ก็ ด.ช.หม่อง ทองดีไง...มิได้อิจฉาเด้กหรอกแต่สงสาร.งผู้แก่ที่บริหารชาติบ้านเมืองอยู่ทุกวัน..อ้างแต่ชาติบ้านเมือง..แต่จริงๆแล้วไม่ใช่คะ..วันนี้แก้ รธน. อีกเพราะไม่เข้าตานักการเมือง..พี่ทำใจเถอะ....นะ
ผู้ตอบ : t52
ส่งคำตอบเมื่อ : วันพุธ 16 กันยายน 2552 เวลา 13 นาฬิกา 19 นาที