|
|
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดจวนจัดงานอีดิ้ลฟิตรีสัมพันธ์ครั้งที่3 พบปะส่วนราชการและผู้นำศาสนาอิสลาม บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 29 สิงหาคม 2555 ที่บ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายประสาน ศรีเจริญ รองจุฬาราชมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงาน อีดิ้ลฟิตรีสัมพันธ์ ครั้งที่3 ประจำปี 2555 เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง ให้แก่ชาวไทยมุสลิมจังหวัดกระบี่ ภายหลังการเสร็จสิ้นปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอน และสร้างความสัมพันธ์ ที่ดี ระหว่างส่วนราชการและประชาชนชาวไทยมุสลิม โดยมีนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวให้การต้อนรับ มีผู้นำศาสนาอิสลามในจังหวัดกระบี่ และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น
ภายในงานเริ่มพิธีด้วยการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่าน จากนั้นนายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผวจ.กระบี่ ได้กล่าวให้การต้อนรับ นายประสาน ศรีเจริญ รองจุฬาราชมนตรี และ ผู้นำศาสนาอิสลามที่มาร่วมพิธีในครั้งนี้ พร้อมกล่าวว่า การจัดงานอีดิ้ลฟิตรีสัมพันธ์ฯ ในปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่3 ติดต่อกัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองให้แก่พี่น้องชาวไทยมุสลิม ภายหลังการปฏิบัติศาสนากิจตลอดเดือนรอมฎอน ซึ่งตรงกับเดือนสิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา และเป็นการพบปะระหว่างผู้นำศาสนาอิสลาม และหัวหน้าส่วนราชการ เพราะในการที่จะพัฒนาจังหวัด จะขาดความร่วมมือจากกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเสียมิได้ ทั้งหัวหน้าส่วนราชการก็ดี ประชาชนทุกเชื้อชาติศาสนาที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ก็ต้องมาทำความเข้าใจกัน โดยเฉพาะในจังหวัดกระบี่ก็มีชาวไทยมุสลิมอยู่จำนวนมาก ดังนั้นการดำเนินนโยบายของจังหวัดเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก็ต้องได้ความร่วมมือจากทุกฝ่าย
นายประสาน ศรีเจริญ รองจุฬาราชมนตรี กล่าวว่า การจัดงานอีดิ้ลฟิตรีสัมพันธ์ เป็นสิ่งที่ควรสนับสนุน เพราะจังหวัดกระบี่ ถือเป็นจังหวัดเดียวในประเทศที่จัดงานในลักษณะดังกล่าว โดยเฉพาะท่านผู้ว่าราชากรจังหวัดกระบี่ พร้อมเปิดบ้านต้อนรับพี่น้องชาวมุสลิมทุกคน โดยที่ท่านได้นำหลักคำสอน3 คำ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คือเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา จึงเป็นนิมิตรหมายอันดีที่จะสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้รองจุฬาราชมนตรี ได้กล่าวอีกว่า ขอให้จังหวัดกระบี่ และพี่น้องชาวไทยมุสลิม ให้ความสำคัญในเรื่องของการเข้าสู่เป็นประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะในเรื่องของภาษา เป็นสิ่งที่ควรจะส่งเสริมลูกหลานให้มีการเรียนรู้เรื่องภาษา ไม่ว่าภาษาอังกฤษ ภาษามาลายู ญี่ปุ่น หรือภาษาจีน เป็นต้น ซึ่งในอนาคตจะเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ เพราะจะมีผู้นำประเทศต่างๆ หรือองค์กรระดับประเทศเข้ามาเยี่ยมเยียนประเทศเรามากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบุคลากรทางด้านภาษายังขาดแคลนอยู่ หากเรามีความชำนาญทางด้านภาษาก็จะสมารถสื่อสารเรื่องราวต่างๆ ให้คนทั่วโลกได้รับรู้ถึงความเป็นอยู่ของเรา และสามารถที่จะเรียนรู้ความเป็นอยู่ของประเทศอื่นๆได้อย่างลึกซึ้งด้วย เพื่อจะได้นำสิ่งที่เป็นประโยชน์มาปรับใช้ในการพัฒนาในประเทศต่อไป
|
หน่วยงานที่แจ้งประชาสัมพันธ์
สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
29 ส.ค. 55 3:53:58 PM
|
