|
|
ว่าที่พันตรี อนุชาต ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสิ่งแวดล้อมวิชาการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้ากระบี่ปัจจุบันใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งมีต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าสูง ทำให้ไม่ได้รับการสั่งจ่ายจากศูนย์ควบคุมการจ่ายไฟฟ้า หรือเดินเครื่องเฉพาะกรณีที่พลังงานไฟฟ้าในภาคใต้ไม่เพียงพอ และประกอบกับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย ปี พ.ศ.2553-2573 ได้พิจารณาการกระจายแหล่งเชื้อเพลิงตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน โดยกำหนดให้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ดังนั้น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้จัดทำโครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ และพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน โดยทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดกำลังผลิต 800 เมกะวัตต์ โดยใช้ถ่านหินนำเข้าจากต่างประเทศเป็นเชื้อเพลิง เพื่อสนองความต้องการการใช้ไฟฟ้าของประเทศ และเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในภาคใต้
ขณะนี้ กฟผ.ได้ศึกษาวิจัยและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น เพื่อคัดเลือกเส้นทางขนส่งถ่านหินตั้งแต่เดือนนี้ถึงเดือนธันวาคม โดยได้ศึกษาเส้นทางการขนส่งคือ 1.ขนถ่ายกลางทะเลบริเวณเกาะปอ-ท่าเรือบ้านคลองรั้ว-โรงไฟฟ้ากระบี่ 2.จากประเทศอินโดนีเซีย-ท่าเรือคลองรั้ว -โรงไฟฟ้ากระบี่ 3.ขนถ่ายกลางทะเลบริเวณเกาะยาว ท่าเรือบ้านคลองรั้ว -โรงไฟฟ้ากระบี่ โดยเส้นทางที่จะขนส่งจะต้องได้รับการยอมรับจากชุมชน และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติตลอดจนสุขภาพของคนในชุมชนน้อยที่สุด
|
หน่วยงานที่แจ้งประชาสัมพันธ์
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดกระบี่
5 ต.ค. 54 2:55:31 PM
|
