ฟันธง!ปี '53ปีทองนักท่องเที่ยวจีน "ภูเก็ต-กระบี่-สมุย"เมืองยอดฮิต
นอกจากข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป ท่านสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารส่วนราชการในจังหวัด ได้จาก ประกาศจังหวัด

ภาคเอกชนฟันธง!ปีหน้าปีทองนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย จี้รัฐหนุนขยายเส้นทางบิน 4เมือง 4 มณฑล ศักยภาพท่องเที่ยวสูง ด้านภาครัฐ นำโดย "ทอท.-ททท."ตื่นตัวแก้อุปสรรค-ทัวร์ศูนย์เหรียญ หวังจำนวนนักท่องเที่ยวแตะระดับ 1.2 ล้านคนปี 2553 ขณะที่ททท.เตรียมเปิดสำนักงานสาขาเพิ่ม 2 แห่ง "คุนหมิง-กวางโจว" พร้อมทุ่มงบฯ 60 ล้านบาททำประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศจีน ระบุ "ภูเก็ต กระบี่ สมุย"เมืองยอดฮิตนักท่องเที่ยวมังกร

ฤดูหนาวใกล้สิ้นปีอย่างนี้ ประเทศไทยจะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว ทั้งนักท่องเที่ยวชาวยุโรป อเมริกา และนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียด้วยกันไม่น้อย ที่น่าสนใจคือ "นักท่องเที่ยวจีน" คือนักท่องเที่ยวที่ขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ต่างให้ความสนใจ และอยากให้มาท่องเที่ยวในประเทศไทยที่สุด เพราะนอกจากจะมีประชากรจำนวนมากแล้ว เศรษฐกิจที่ดีของจีนที่สวนกระแสโลกขณะนี้ยังเป็นตัวสำคัญให้ "คนจีน"มีกำลังซื้อมากขึ้น

ฟันธง!ปีทองท่องเที่ยวจีนมาไทย

วิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน กล่าวว่าปีหน้าคาดว่าจะเป็นปีทองสำหรับนักท่องเที่ยวจีนมาไทย หากบรรยากาศการท่องเที่ยวและการเมืองไทยสงบเรียบร้อยดี ซึ่งการฟื้นตัวของการที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวไทยมากขึ้นนั้น เกิดขึ้นหลังจาก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้ไปพบกับผู้นำจีนในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำหรับภาคเอกชนแล้วคาดว่าปีหน้าตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยจะเข้าสู่ ระดับ 1.2 ล้านคน และอาจสูงเป็นประวัติการณ์ด้วย

ในการนี้ภาคเอกชนได้ร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หาวิธีแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ และวางแผนผลิตโปรแกรมทัวร์ที่หลากหลายมากขึ้น อีกทั้งจะต้องมีทัวร์คุณภาพในหลายระดับด้วย

"กำลังซื้อของคนจีนเพิ่มขึ้นสูงมาก จึงต้องทำโปรแกรมทัวร์ให้เขามีโอกาสเลือก เลือกให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนจีนยุคใหม่ที่เปลี่ยนไป"

นอกจากนี้ยังอยากให้รัฐบาลสนับสนุนการเพิ่มเที่ยวบินไทย-จีน เพิ่มเที่ยวบินเหมาลำมากขึ้น และสนับสนุนการขยายเที่ยวบินโดยเฉพาะใน 4 เมือง 4 มณฑลใหม่ ได้แก่ เมืองน่านกิง มณฑลเจียงซู เมืองจี้หนาน มณฑลซานตง เมืองฉางซา มณฑลหูหนาน และเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย เพราะ 4 มณฑลนี้ถือเป็นมณฑลที่มีเศรษฐกิจดี มีจีดีพีสูง มีประชากรมาก แต่ยังไม่มีเส้นทางการบินเข้ากรุงเทพฯเลย ซึ่งเป็นสิ่งน่าเสียดาย

"จำนวนนักท่องเที่ยวมีอยู่แล้ว พร้อมอยู่แล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่ฝีมือของไทยที่จะเข้าไปทำการตลาด"

ททท.เตรียมเปิดสนง.เพิ่ม "คุนหมิง-กวางโจว"

ทั้งนี้ มิใช่แต่เพียงภาคเอกชนที่คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยกำลังฟื้นตัวและ มีแนวโน้มที่จะมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ภาครัฐของไทยก็เริ่มตื่นตัว และหวังดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยให้มากขึ้นเช่นกัน

สรรเสริญ เงารังสี ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าโดยภาพรวมแล้ว ตลาดท่องเที่ยวจีนกำลังฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจของจีนเป็นไปในทิศทางที่ดี และรัฐบาลจีนก็ให้การสนับสนุนให้ชาวจีนมาเที่ยวในเมืองไทยแล้ว หลังจาก อภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทยได้เดินทางไปจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ชาวจีนเริ่มเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น โดยเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ประธานการท่องเที่ยวมณฑลกวางตุ้งก็ได้เดินทางมาไทย และได้ลงนามในสัญญาเพิ่มการท่องเที่ยวไทย-กวางตุ้ง ด้วย

ส่วนททท.ก็เตรียมเปิดสำนักงานท่องเที่ยวเพิ่มที่เมืองคุนหมิงในเดือน เมษายน และที่เมืองกวางโจวในเดือนมิถุนายน 2553 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประชาสัมพันธ์และดูแลนักท่องเที่ยวชาวจีนมากขึ้น โดยปี 2553 ททท.ได้เตรียมใช้งบประมาณจากโครงการชุมชนเข้มแข็งทำประชาสัมพันธ์ให้ครอบ คลุมทุกมณฑลจีนจำนวน 60 ล้านบาทด้วย โดยเชื่อว่าปี 2553 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยกลับสู่ตัวเลข 1ล้านคน-1.2 ล้านคนซึ่งเป็นฐานนักท่องเที่ยวเดิมเมื่อปี 2549 ด้วย

"ขณะนี้นักท่องเที่ยวจีนอยู่ในอันดับที่ 4 รองจากญี่ปุ่น มาเลเซีย เกาหลี แต่คาดว่าภายใน 3 ปี จีนจะกลายมาเป็นอันดับ 1 ได้ แต่ไทยต้องพัฒนาคุณภาพการบริการให้ดีขึ้น อย่าให้มีทัวร์ศูนย์เหรียญ"

สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนมาไทย มี 2 รูปแบบคือ เป็นกรุ๊ปทัวร์ และกลุ่มที่เดินทางท่องเที่ยวเอง ซึ่ง กลุ่มที่มาเป็นกรุ๊ปทัวร์จะมีการใช้จ่ายเงินที่น้อยกว่ากลุ่มที่มาเอง เนื่องจากคิดว่าราคาทัวร์รวมทุกอย่างแล้ว ไม่อยากจะจ่ายเงินเพิ่ม แต่สำหรับกลุ่มที่มาเอง ปกติมักจะเป็นคนที่มีฐานะดี มีการใช้เงินต่อหัวมากกว่า ฉะนั้นหากมีการดึงดูดนักท่องเที่ยวส่วนนี้เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นจะเพิ่ม รายได้ให้การท่องเที่ยวไทยได้มากกว่า ซึ่งขณะนี้มีสัดส่วนกรุ๊ปทัวร์ 80% และเที่ยวเอง 20% คาดปีหน้าจะเพิ่มสัดส่วนได้เป็น 70% ต่อ 30% โดยจังหวัดที่นักท่องเที่ยวจีนชอบมาเที่ยวได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ และสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย)

ทอท.ดึงทัวร์จีนใหม่-จัดโปรแกรมน้ำดี

นอกจากนี้ที่ผ่านมาการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ก็ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดพาทัวร์จีนกว่า 40 ทัวร์ ที่ไม่เคยจัดทำทัวร์มาประเทศไทยมาก่อน ในพื้นที่ 9 มณฑลที่ไทยมีสายการบินอยู่แล้ว ได้แก่ 6 มณฑลของสายการบินไทย ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางเจา คุนหมิง เซียะเหมิน และ เฉิงตู และ3 มณฑลของแอร์เอเชียได้แก่ เซินเจิ้น มาเก๊า และจูไห่ มาจัดสัมมนาและดูแหล่งท่องเที่ยวไทยด้วย

แหล่งข่าวในทอท.กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจีน เป็นตลาดที่มีความน่าสนใจมากใน 4 ประเด็น ได้แก่ 1.ระยะทางจีน-ไทยไม่ไกลกัน มีระยะเวลาการเดินทางทางอากาศไม่กี่ชั่วโมง 2.ไทย-จีนมีฐานความเป็นบ้านพี่เมืองน้องต่อกัน 3. ไทย-จีนมีสายสัมพันธ์ที่ดีในทุกระดับตั้งแต่ระดับราชการ และระดับประชาชน และ 4.จีนเป็นประเทศที่มีประชากรมาก และนักท่องเที่ยวจีนไม่จำเป็นว่าจะต้องเที่ยวตามฤดูกาล แต่จะมาเที่ยวประเทศไทยได้ตลอดทั้งปี ด้วยเหตุนี้ ทอท.จึงคิดว่าการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวไทยมากขึ้นจึงมีความ สำคัญ

โดยการพาบริษัททัวร์จีนใหม่ๆ มาไทย ได้มาพบผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย และได้มีการหารือความเป็นไปได้ในการจัดโปรแกรมทัวร์ใหม่ๆ คาดว่านอกจากจะมีบริษัททัวร์จีนใหม่ๆ เข้ามาทำการตลาดในไทยเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังเชื่อว่าจะเป็นการแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญในไทยได้ระดับหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจีนกังวลและอยากให้ไทยแก้ไขนั้นคืออุปสรรค สำคัญ 2 ประการ ได้แก่ เรื่องความสะดวกในการท่องเที่ยวคือการขอ Visa on arrival ที่ยังต้องดำเนินการขอหลายขั้นตอนและล่าช้า โดยทางจีนอยากให้มีการยกเลิกวีซ่าระหว่างประเทศ ขณะที่ต้องการให้ประเทศไทยอำนวยความสะดวกในเรื่องของภาษาให้มากขึ้น เนื่องจากป้ายต่างๆ หรือโบวชัวร์แนะนำการท่องเที่ยวในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นเป็นภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ซึ่งคนจีนได้ขอให้ใช้เป็นภาษาจีน ซึ่งตรงนี้ ททท.ได้รับข้อเสนอและนำไปจัดการอำนวยความสะดวกต่อไป

ขนส่งชูเปิดเสรีการบิน 2 ประเทศ

ขณะที่กรมการขนส่งทางอากาศของไทยได้แจ้งสิทธิพิเศษ ซึ่งถือเป็นการเปิดเสรีการบินระหว่าง 2 ประเทศ ภายใต้ข้อตกลงว่าด้วยการเดินอากาศระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีนด้วย โดยกรมขนส่งทางอากาศฯ ชี้แจงว่าแต่ละฝ่ายมีสิทธิแต่งตั้งสายการบินที่กำหนดได้หลายสายตามต้องการ ให้สิทธิความจุความถี่ในการทำการบินระหว่างไทย-จีน อย่างไม่จำกัด จากจุดใดๆ ในจีน ผ่านจุดระหว่างทางใดๆ มายังจุดใดๆในไทย และพ้นไปยังจุดใดๆก็ได้ รวมถึงการให้สิทธิในการทำการบินเชื่อมสองจุดในประเทศของอีกฝ่ายหนึ่ง เช่น สายการบินของจีนสามารถทำการบินมายังกรุงเทพฯ และต่อไปภูเก็ตในเที่ยวบินเดียวกันได้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางมาแวะท่องเที่ยวกรุงเทพ ไม่เกิน 7 วันและเดินทางไปเที่ยวภูเก็ตก่อนกลับประเทศจีนได้อีกด้วย อีกทั้ง 2 สายการบินไทย-จีนยังสามารถร่วมมือกันทำการบินในลักษณะการทำการบินโดยใช้ชื่อ เที่ยวบินร่วมกันได้ด้วย

ที่มา ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ 11 ธันวาคม 2552 12:57 น.
หน่วยงานที่แจ้งประชาสัมพันธ์
สำนักงานจังหวัดกระบี่
12 ธ.ค. 52 9:13:56 PM

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้องในหมวด ท่องเที่ยว


แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ข้อตกลง  ขอความกรุณาใช้ถ้อยคำสุภาพ และแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ และมีเหตุผล ขอสงวนสิทธิ์ ในการแก้ไข หรือ ตัดรายการ หรือ ข้อความที่ ไม่เหมาะสมออก โดยไม่ต้องชี้แจง
ชื่อ/Email
ความคิดเห็น