ผู้ว่าฯกระบี่เตรียมหารือ 3 จว.อันดามันหามาตรการป้องกันอุบัติภัยทางทะเล
นอกจากข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป ท่านสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารส่วนราชการในจังหวัด ได้จาก ประกาศจังหวัด

กระบี่ - ผู้ว่าฯกระบี่ เตรียมประสาน 3 จังหวัดอันดามันหารือวางมาตรป้องกันอุบัติภัยทางทะเลกรณีเหตุเรือโดยสารไฟไหม้จม

จากกรณีที่เกิดเหตุไฟลุกไหม้เรือของบริษัท อันดามัน เวฟมาสเตอร์ จำกัด ชื่อ “เจ็ตเวฟ 3” เป็นเหตุให้เรือจมลงสู่ก้นทะเลลึก 30 เมตรที่บริเวณหน้าอ่าวมาหยา ห่างจากเกาะพีพีประมาณ 12 ไมล์ทะเล สร้างความหวาดเสียวแก่ผู้โดยสาร แต่โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งผู้โดยสารมีทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวน 76 ชีวิต ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2550ที่ผ่านมา

โดยล่าสุดนายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดใน 3 จังหวัดฝั่งทะเลอันดามันเพื่อหามาตรการในการป้องกันอุบัติภัยบนท้องทะเลร่วมกัน เนื่องจากสภาพภูมิประเทศทั้ง 3 จังหวัดนั้นมีลักษณ์คล้ายคลึงกันและมีการใช้ประโยชน์แหล่งท่องเที่ยวร่วมกัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยต่อว่า สำหรับแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่นั้นมีแหล่งท่องเที่ยวที่จังหวัดใกล้เคียง ใช้เรือโดยสารนำนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวมากที่สุด คือ เกาะพีพี ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลอ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ฉะนั้น เมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นทั้ง 3 จังหวัดก็ควรที่จะมานั่งประชุม หามาตรการป้องกันเหตุร่วมกัน เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่นับวันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นต่อไป

"เหตุการณ์ไฟไหม้เรือครั้งนี้ผมต้องขอขอบคุณไปยังอาสาสมัครป้องกันภัยทางทะเล และชาวเกาะพีพีทุกคน ที่ช่วยกันขนนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุจนได้รับความปลอดภัยกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเรือสปีดโบ้ทที่อยู่บริเวณใกล้เคียง รวมทั้งเรือ หางยาวที่ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ สามรถสร้างความประทับให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี" ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าว และว่า

นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้ให้การช่วยเหลือทั้งในเรื่องของเสื้อผ้า อาหาร และที่พักชั่วคราว ระหว่างที่รอบริษัทนำเที่ยวจากภูเก็ตเดินทางมารับ ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น อาทิ ทรัพย์สินที่ผู้สารนำขึ้นบนลำเรือ ตามากฏหมายทางบริษัทเดินเรือจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด

ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบเหตุไฟไหม้เรือดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็ได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วนแล้ว แต่ในเบื้องต้นพบว่าสาเหตุของการไฟลุกไหม้ในครั้งนี้เกิดจากความบกพร่องของผู้ประกอบการเดินเรือที่ไม่ได้ตรวจสอบเครื่องยนต์อย่างละเอียดก่อนออกเดินทาง ซึ่งในส่วนของจังหวัดกระบี่ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเรือโดยสารทุกครั้งก่อนออกเดินทาง เหตุการณ์นับว่ายังโชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ด้านนายสุริยา กิตติมณฑล หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำที่ 5 สาขากระบี่ กล่าวว่า จากการที่ได้ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบในเบื้องต้นหลังจากเกิดเหตุ พบว่ามีคราบน้ำมัน มีลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มบางๆ จำนวนหนึ่งลอยอยู่บนผิวน้ำ แต่คาดว่าคงจะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด เนื่องจากมีปริมาณน้อยและที่สำคัญเรือโดยสารลำดังกล่าวไม่ใช้น้ำมันเตาแต่เป็นน้ำมันดีเซล ซึ่งใช้เวลาไม่นานแผ่นฟิล์มดังกล่าวจะถูกเผาด้วยแสงแดดและย่อยสลายเอง

ส่วนตัวเรือที่จมอยู่ใต้ทะเลนั้น ประกอบด้วยวัสดุที่ทำจากไม้เป็นส่วนใหญ่ เมื่อจมลงสู่ท้องทะเลก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับเรื่องที่จะมีการกู้ซากเรือหรือไม่นั้นตนมีความเห็นว่า ทางบริษัทเจ้าของเรือไม่น่ากู้ซากเรือเพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงและไม่คุ้มเพราะเครื่องยนต์ได้รับความเสียหายและไม่สารมารถใช้การได้

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2550 13:00 น.
หน่วยงานที่แจ้งประชาสัมพันธ์
สำนักงานจังหวัดกระบี่
27 เม.ย. 50 2:17:18 PM

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้องในหมวด ท่องเที่ยว


แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ข้อตกลง  ขอความกรุณาใช้ถ้อยคำสุภาพ และแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ และมีเหตุผล ขอสงวนสิทธิ์ ในการแก้ไข หรือ ตัดรายการ หรือ ข้อความที่ ไม่เหมาะสมออก โดยไม่ต้องชี้แจง
ชื่อ/Email
ความคิดเห็น