รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางถนนสายอ่าวลึก-บางสวรรค์ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ระยะทาง 17 กิโลเมตร นำร่องโครงการก่อสร้างถนนด้วยการใช้ยางพาราแห่งแรกในประเทศไทย งบประมาณ 85 ล้านบาท หวังเพิ่มมูลค่ายางพาราแก้ปัญหาราคาตกต่ำในระยะยาว
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 17 มีนาคม 2556 นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ได้ลงพื้นที่สำรวจทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 44 เส้นทางถนนสายอ่าวลึก-บางสวรรค์ ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ กิโลเมตรที่4+500 ถึงกิโลเมตรที่21+400 รวมระยะทาง 17 กิโลเมตร เพื่อสำรวจพื้นที่นำร่องโครงการก่อสร้างถนนด้วยการใช้ยางพาราผสมแอสฟัลต์ แห่งแรกของประเทศ โดยมีนายประสิทธิ์ โอสถานนนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกอบจ. กระบี่ หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานอนุกรรมกรจัดทำยุทธศาสตร์การเพิ่มมูลค่ายางพาราไทย กล่าวว่า ยางพาราและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยางพาราเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญลำดับต้นๆของประเทศ สามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศจำนวนมาก แต่ยางพาราที่ส่งออกส่วนใหญ่อยู่ในรูปของวัตถุดิบหรือยางแปรรูปอย่างง่าย ทำให้มีความเสี่ยงทางด้านราคาและเสียโอกาสทางด้านมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ยางพารา และ แก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำในระยะยาว ทางกระทรวงเกษตรจึงได้เร่งแต่งตั้งคณะทำงานส่งเสริมการใช้ยางในประเทศ โดยการสร้างถนนด้วยยาพาราผสมกับแอสฟัลต์ ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาได้กำหนดพื้นที่โครงการที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ประสบปัญหาเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินจึงไม่สามารถดำเนินการได้
ดังนั้นในปีนี้จึงได้ดำเนินการจัดหาพื้นที่ใหม่ที่มีความเหมาะสม โดยเลือกเส้นทางที่ปริมาณด้านการจราจรที่หนาแน่น และเป็นเส้นทางท่องเที่ยว รวมทั้งมีการปลูกยาพาราในบริเวณใกล้เคียงด้วย สำหรับเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 44 สายอ่าวลึก-บางสวรรค์ ถือว่าเป็นเส้นทางที่มี่ปริมาณการจราจรที่หนาแน่นมากรถวิ่งผ่านเฉลี่ย 5,300 คันต่อวัน และมีรถบรรทุกหนักใช้งานประมาณ วันละ500คัน พื้นที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักทางหลวงกระบี่ (สุราษฎร์ธานี) ซึ่งหลังจากนี้จะได้มอบหมายให้คณะทำงานประสานกรมทางหลวงเพื่อประเมินค่าใช้จ่าย ก่อนที่จะสรุปแผนเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ(กนย.) พิจารณา โดยโครงการนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า85 ล้านบาท สำหรับถนนที่ใช้ยาวพาราผสมแอสฟัลต์ ที่ผ่านการทดสอบจะมีอายุการใช้งานประมาณ 10ปี คาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่ายางพาราได้มากยิ่งขึ้นและช่วยแก้ปัญหาราคาตกต่ำในระยะยาวได้ต่อไป
|
