จังหวัดกระบี่เปิดการฝึกอบรมเกษตรกรส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทนสวนเก่าเพื่อรองรับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้า AFTA
วันนี้ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เวลา 11 .00 น. นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมเกษตรกรส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทนสวนเก่าเพื่อรองรับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้า AFTA ณ ห้องประชุมช้างเผือก องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ อ.เมือง จ.กระบี่ โดยมี นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ กล่าวรายงาน
นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่าการอบรมสัมมนาในวันนี้ เป็นการฝึกอบรมเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทนสวนเก่า เพื่อรองรับผลกระทบจาการเปิดเสรีการค้าอาเซียน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยเคมีและลดต้นทุนในการผลิต ปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจที่ให้ผลผลิตยาวนานมากกว่า ๒๐ ปี โดยจะเริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุ ๓ ปี ผลผลิตจะเพิ่มสูงขึ้นตามอายุและจะให้ผลผลิตสูงสุดในช่วงอายุ ๘ ๑๒ ปี หลังจากอายุ ๑๕ ปีผลผลิตจะเริ่มลดน้อยลง ต้นปาล์มน้ำมันมีความสูง ยากในการเก็บเกี่ยว ทำให้ต้นทุนในการผลิตเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันมีสวนปาล์มน้ำมันในจังหวัดกระบี่อายุกว่า ๑๕ ปี จำนวนมากกว่า ๑ แสนไร่ ซึ่งสวนปาล์มน้ำมันเหล่านี้นับวันจะทรุดโทรมและให้ผลผลิตต่ำ ทำให้เกษตรกรสูญเสียรายได้ที่ควรได้รับคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๔๐ โดยกำหนดเป้าหมายขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันใหม่ ๒.๕ ล้านไร่ พื้นที่ปลูกทดแทนสวนปาล์มน้ำมันเก่าด้วยปาล์มน้ำมันพันธุ์ดี ๐.๕ ล้านไร่ เพิ่มผลผลิตจาก ๓.๐ ตันต่อไร่ต่อปี เป็น ๓.๕ ตันต่อไร่ต่อปี อัตราน้ำมันจากร้อยละ ๑๗ เป็นร้อยละ ๑๘.๕ ระยะเวลาดำเนินการ ๕ ปี (ปี ๒๕๕๑ ๒๕๕๕ ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของเกษตรกร และเตรียมการรองรับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้าอาเซียน รวมทั้งสนับสนุนแผนพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทนสวนเก่า เพื่อรองรับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้า AFTA โดยใช้งบประมาณกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ดำเนินการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทนปาล์มน้ำมันอายุกว่า ๒๐ ปี ในพื้นที่ ๕ จังหวัด ได้แก่ กระบี่ สุราษฎร์ธานี ชุมพร สตูลและตรัง สำหรับจังหวัดกระบี่ได้รับการส่งเสริมในปีงบประมาณ ๒๕๕๕ จำนวน ๕,๕๐๐ ไร่ มีเกษตรกรที่สมัครใจและผ่านการพิจารณาคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ จำนวน ๕๐๐ คน จากทุกอำเภอของจังหวัดกระบี่
|
