นายกรัฐมนตรีชี้แจงปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลน พร้อมเปิดเผยในวันอังคารนี้ จะประชุมเพื่อเร่งรัดแก้ปัญหา ย้ำจะไม่เพิ่มภาระให้กับประชาชน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนากยกอภิสิทธิ์ ถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปาล์มว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบ ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการที่สูงขึ้นและผลผลิตน้อยลงเนื่องจากผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ซึ่งรัฐบาลได้ประเมินสถานการณ์ตั้งแต่ปลายปี 2553 และเห็นว่าอาจขาดแคลน คณะรัฐมนตรีจึงมีมติอนุมัติให้นำเข้าน้ำมันปาล์ม 30,000 ตัน พร้อมอนุญาตให้ปรับขึ้นราคาจาก 38 บาท เป็น 47 บาท แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ คณะรัฐมนตรีจึงอนุมัติเพิ่มให้นำเข้าน้ำมันปาล์มอีก 1.2 แสนตัน แต่ปรากฏว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาประชาชนยังเดือดร้อน จึงได้ติดตามจากผู้ที่เกี่ยวข้อง พบว่าการอนุมัติให้นำเข้าครั้งล่าสุดยังไม่มีการดำเนินการ จึงได้มอบหมายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ และนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ประสานกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเร่งรัดการนำเข้าน้ำมันปาล์ม 1.2 แสนตัน โดยในวันอังคารนี้ (22 ก.พ.54) จะประชุมเพื่อหามาตรการนำเข้าน้ำมันปาล์มและกระจายผลผลิตถึงมือผู้บริโภคโดยเร็ว พร้อมย้ำว่าจะไม่เพิ่มภาระให้กับผู้บริโภค หากพบว่ามีการทุจริตหรือกักตุน ขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าไปดำเนินการตรวจสอบได้
สำหรับจังหวัดกระบี่ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยถึงผลการประชุมติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน จังหวัดกระบี่ว่า ปัจจุบันยังไม่สามารถกำหนดราคาอ้างอิงที่แน่นอนได้ ส่งผลทำให้โรงสกัดในพื้นที่ไม่สามารถรับซื้อผลปาล์มได้ในราคาที่เหมาะสมคือไม่ขาดทุนได้ เพราะข่าวสารที่ออกมาจะมองในด้านผู้บริโภคอย่างเดียว ไม่มองถึงผู้ผลิต จึงต้องรวบรวมข้อเสนอแนะต่าง ๆ อาทิ การไม่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาด้วยการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบเพียงอย่างเดียว การส่งเสริมให้มีการพัฒนาทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ นอกจากนี้ยังมีมาตรการอื่น ๆ เช่นการส่งเสริมการลงทุนก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันขึ้นในพื้นที่เพื่อสามารถที่จะกำหนดราคาอ้างอิงที่เหมาะสมได้ โดยหลังจากนี้จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด นำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป
|
