จังหวัดกระบี่จัดงานวันคนพิการสากล ประจำปี 2553
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2553 นายสมาน แสงสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดงานวันคนพิการสากล ประจำปี 2553 ณ ห้องประชุมช้างเผือก องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ โดยมีนางสาวอรนุช หนูแดง ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ กล่าวรายงาน
นายสมาน แสงสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่าเนื่องจากองค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศเป็นมติที่ 47/93 ให้วันที่ 3 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคนพิการสากล โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมสร้างความเข้าใจของสังคมต่อคนพิการ และยอมรับคนพิการเข้าร่วมทั้งทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ รวมทั้งการส่งเสริมและศักยภาพคนพิการ และได้เชิญชวนให้ประเทศสมาชิกร่วมจัดกิจกรรม
สำหรับประเทศไทยได้มีการจัดกิจกรรม เพื่อเฉลิมฉลองวันคนพิการสากลเป็นประจำทุกปี โดยในปี 2553 โดยกำหนดแนวทางการจัดกิจกรรมในหัวข้อ ยิ้มสู้ เพื่ออยู่อย่างเท่าเทียบ ในส่วนของจังหวัดกระบี่ มีผู้พิการที่ได้รับการจดทะเบียนคนพิการแล้ว 5,632 คน ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ทั้ง 8 อำเภอ โดยที่ผ่านมาพบว่าการจัดสวัสดิการ และการรับรู้ข้อมูลข่าวสารด้านสิทธิและสวัสดิการยังไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอห่างไกล เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จังหวัดกระบี่ จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายจัดงานวันคนพิการสากล โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการให้คนพิการได้มีโอกาสพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารด้านสิทธิและสวัสดิการต่าง ๆ ที่จำเป็น
กิจกรรมในงานประกอบด้วย การจดทะเบียนคนพิการและต่อสมุดประจำตัวคนพิการ, การจัดทำบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าสำหรับผู้พิการ, การแนะนำให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสิทธิและประโยชน์ของคนพิการ, การบริการซ่อมรถคนโยก รถจักรยานยนต์ รถเข็นนั่ง , การมอบของขวัญและการจัดเลี้ยงอาหาร รวมทั้งกิจกรรมบันเทิงและกิจกรรมการแสดงความสามารถของผู้พิการ
นายสมาน แสงสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ผู้พิการเป็นผู้ที่มีศักยภาพและความสามารถ ถ้าหากได้รับโอกาวในการพัฒนาฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างถูกวิธี ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันรัฐบาลได้ออกกฎหมายให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้พิการหลาย ๆ ด้าน ทั้งเรื่องการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ ฟื้นฟูด้านการฝึกอาชีพ ส่งเสริมการมีงานทำสงเคราะห์ช่วยเหลือกรณีครอบครัวประสบปัญหาเดือดร้อน ให้ความช่วยเหลือด้านเบี้ยยังชีพแก่ผู้พิการที่มีสภาพความพิการมากจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ รวมทั้งการได้รับสิทธิประโยชน์เป็นการเฉพาะกิจ อาทิ การรักษาพยาบาลตามโครงการบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า การเข้ารับการศึกษาสำหรับผู้พิการ ที่ต้องการได้รับการศึกษาพิเศษ หรือการร่วมเรียนกับนักเรียนปกติภายใต้คำขวัญที่ว่า ยิ้มสู้ เพื่ออยู่อย่างเท่าเทียม
|