สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจัดโครงการจัดทำประชาพิจารณ์ในส่วนภูมิภาค เพื่อปรับปรุง ยกเลิก แก้ไขและร่างกฏหมายกับอนุบัญญัติต่าง ๆ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553
นอกจากข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป ท่านสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารส่วนราชการในจังหวัด ได้จาก ประกาศจังหวัด

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจัดโครงการจัดทำประชาพิจารณ์ในส่วนภูมิภาค เพื่อปรับปรุง ยกเลิก แก้ไขและร่างกฏหมายกับอนุบัญญัติต่าง ๆ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2553 นายนพปฎล เมฆเมฆา รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นประธานในการเปิดการจัดโครงการจัดทำประชาพิจารณ์ในส่วนภูมิภาค เพื่อปรับปรุง ยกเลิก แก้ไขและร่างกฏหมายกับอนุบัญญัติต่าง ๆ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ณ. ห้องพระนาง โรงแรมพาวิลเลี่ยน ควีนส์ เบย์ กระบี่
นายนพปฎล เมฆเมฆา รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งกฎหมายดังกล่าวมีบทบัญญัติในมาตรา 39 ให้อำนาจคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฟ้องคดีแทนผู้บริโภคที่ถูกละเมิดสิทธิหรือผิดสัญญาจากผู้ประกอบธุรกิจ และมาตรา 40 บัญญัติให้การสนับสนุนสมาคมที่มีวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองผู้บริโภค หรือต่อต้านการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ให้สามารถฟ้องดำเนินคดีแทนสมาชิกของสมาคมได้ หากเกิดข้อพิพาทในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้กฎกระทรวงฉบับที่ 8 และกฎกระทรวงฉบับที่ 9 เป็นกฏหมายที่ใช้ในการพิจารณาเพื่อให้การรับรองสมาคมตามมาตรา 40 กฎกระทรวงทั้งสองฉบับได้ใช้บังคับตั้งแต่ปี พ.ศ 2540 ซึ่งนับเป็นเวลานานพอสมควร ประกอบกับปัจจุบันมีพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นกฎหมายอีกหนึ่งฉบับที่ให้ความคุ้มครองผู้บริโภค โดยจะเห็นได้จากบทบัญญัติที่ส่งเสริมให้สมาคมสามารถฟ้องคดีแทนผู้บริโภคได้เช่นเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จึงเห็นควรว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะจัดระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับกฎกระทรวงทั้งสองฉบับ เพื่อนำข้อคิดเห็นต่าง ๆ มาเป็นข้อมูลในการยกเลิก แก้ไข หรือยกร่างกฏหมายใหม่ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน




นายนพปฎล เมฆเมฆา รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โดยในปัจจุบันประชาชนได้ตื่นตัวและรับรู้สิทธิและหน้าที่กฎหมายกำหนดมากขึ้น การรวมตัวกันเป็นองค์กรต่าง ๆ ทั้งที่มีจุดประสงค์ในการช่วยเหลือคนในองค์กร หรือให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมีมากขึ้น ซึ่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ในมาตรา 40 ได้มีบทบัญญัติที่ส่งเสริมองค์กรเอกชนในรูปแบบสมาคมสามารถให้การช่วยเหลือผู้บริโภคที่เป็นสมาชิกของสมาคมได้ ทั้งนี้ มีกฎกระทรวงฉบับที่ 8 และกฎกระทรวงฉบับที่ 9 พ.ศ. 2540 ออกตามในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่าง ๆ ให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคดำเนินการตรวจสอบก่อนให้การรับรองสมาคมที่มายื่นขอการรับรองนั้น
เนื่องจากกฎกระทรวงทั้งสองฉบับได้ประกาศใช้บังคับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 นับถึงปัจจุบันเป็นเวลา 13 ปีแล้ว ซึ่งตลอดเวลาที่มีการบังคับใช้ ปรากฏว่ามีบางบทบัญญัติที่ไม่ทันสมัย ซ้ำซ้อน หรือไม่เหมาะสม อันเป็นภาระ และอุปสรรคในการปฏิบัติตามกฎหมาย
ด้วยเหตุนี้ สำนักกฏหมายและคดีซึ่งได้รับมอบหมายจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ให้นำกฎกระทรวงทั้งสองฉบับ ได้แก่ กฎกระทรวงฉบับที่ 8 และกฎกระทรวงฉบับที่ 9 บรรจุไว้ในแผนพัฒนากฎหมายของส่วนราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 พร้อมกับจัดสัมมนาระดมความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อขอทราบข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะเพื่อ
นำมาใช้ในการแก้ไข ปรับปรุงหรือยกร่างกฏกระทรวงในลักษณะดังกล่าวเสียใหม่ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุม และเป็นการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนของสังคมที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ และแสดงความคิดเห็นต่อกฏหมายที่จะบังคับใช้ในอนาคตต่อไป
หน่วยงานที่แจ้งประชาสัมพันธ์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
24 มิ.ย. 53 12:00:30 PM

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้องในหมวด สังคม


แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ข้อตกลง  ขอความกรุณาใช้ถ้อยคำสุภาพ และแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ และมีเหตุผล ขอสงวนสิทธิ์ ในการแก้ไข หรือ ตัดรายการ หรือ ข้อความที่ ไม่เหมาะสมออก โดยไม่ต้องชี้แจง
ชื่อ/Email
ความคิดเห็น