ชาวบ้านกว่า 100 คนชุมนุมประท้วงไม่ยอมให้เคลื่อนย้ายหีบบัตรลงคะแนนเลือกตั้งนายกอบต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เนื่องจากคณะกรรมการนับคะแนนไม่โปร่งใส
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2551 ที่วัดคลองแรด หมู่ 7 ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งเป็นสถานที่นับคะแนนผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองพน ได้มีชาวบ้านจำนวนกว่า 100 คน นำโดยนายอุดม ผลเงาะ อายุ 42 ปี ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองพล มารวมตัวชุมประท้วงเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดหีบบัตรเพื่อนับคะแนนใหม่ เนื่องจากเห็นว่าการนับคะแนนเลือกตั้งนายกอบต.คลองพน เมื่อคืนวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมามีการทุจริต ไม่โปร่งใส โดยกลุ่มชาวบ้านที่มาชุมนุมไม่ยอมให้คณะกรรมการเคลื่อนย้ายหีบบัตรออกไป พร้อมขู่ว่าหากเคลื่อนย้ายชาวบ้านทั้งหมดจะทำการปิดล้อมทันที สำหรับผลการนับคะแนนเมื่อคืนที่ผ่านมานายอุดม แพ้นายธรรมรักษ์ จงรักษ์ นายกอบต. เมื่อสมัยที่ผ่านมา เพียง 44คะแนน โดยนายธรรมรักษ์ ได้ไป3,929 คะแนน ส่วนนายอุดม ได้ 3,885 คะแนน
นายอุดม ผลเงาะ ผู้สมัครนายกอบต. กล่าวว่า สาเหตุที่ตนและชาวบ้านมาชุมนุมประท้วง เนื่องจากเชื่อว่าการนับคะแนนนายกอบต.ในครั้งนี้ มีการโกงกันอย่างแน่นอน เพราะตนมีหลักฐานเอกสารอย่างชัดเจน เนื่องจากขณะที่คะแนนของตนนำอยู่ คณะกรรมการอ้างว่านับผิเดพลาดจะต้องมีการนับใหม่ อีกครั้ง เมื่อเห็นว่าคู่แข่งของตนนำเขาก็ถือว่านับถูกต้อง ในส่วนนี้ตนเห็นว่า เป็นการปล้นเสียงของชาวบ้านโดยคณะกรรมการนับคะแนน ดังนั้นตนต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง มาแก้ไขปัญหา ด้วย โดยให้ตั้งคณะกรรมการนับคะแนนชุดใหม่ที่เป็นกลางมาเปิดหีบนับคะแนนเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย
ต่อมาเวลา 12.30 น. นายไมตรี บุญยัง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดกระบี่ 3 คน ประกอบด้วย พล.ต.ต.ประจักษ์ มุสิกสุคนธ์ นายพินิจ อัศวโกวิทกรณ์ และนายพงศ์นารถ ทิพย์อักษร ได้เดินทางไปที่หน่วยนับคะแนนดังกล่าว โดยมีการประชุมเพื่อหาข้อยุติร่วมกับ ผู้สมัคร นายกอบต. และตัวแทนชาวบ้านที่มาชุมนุมซึ่งผลการประชุมสรุปว่า ทางกกต.จังหวัดไม่สามารถเปิดบัตรนับคะแนนใหม่ได้ เนื่องจากปิดหีบบัตรนับคะแนนแล้ว การที่จะเปิดหีบบัตรนับคะแนนใหม่นั้นทางกกต.จังหวัดไม่มีอำนาจที่จะกระทำได้ จะต้องมีคำสั่งจากทางกกต.กลางเพียงอย่างเดียว
ดังนั้นทางผู้สมัคร นายกอบต.หรือตัวแทน ทำหนังสือร้องเรียนไปยัง กกต.จังหวัด ในเรื่องที่มีการนับคะแนนไม่โปร่งใส พร้อมนำเอกสารหลักฐาน และพยานบุคคล ประกอบไปยื่นให้กกต.ในวันพรุ่งนี้ เพื่อจะได้ตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนโดยจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน เพื่อสรุปผลส่งต่อไปยังกกต.กลางพิจารณาต่อไป คาดว่าคงจะใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์
อย่างไรก็ตามชาวบ้านที่มาชุมนุมต่างไม่พอใจผลการประชุม และวิจารณ์ต่างๆ นานา และยังคงยืนยันว่า จะไม่ยอมให้เคลื่อนย้ายหีบบัตรออกจากหน่วยนับคะแนนอย่างเด็ดขาด จนกว่าทางกกต.จะเปิดให้นับคะแนนใหม่ ซึ่งทางกกต.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นการชั่วคราว จนกว่าชาวบ้านจะยอมให้ขนย้ายหีบบัตรเลือกตั้งไปไว้ที่ปลอดภัยต่อไป
|