กระบี่ สรุปผลการดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในรอบปี เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค
นายชาย พานิชพรพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดกระบี่ ได้แต่ตั้งคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ประจำจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานฯ เพื่อทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองคำร้องทุกข์ ผู้เดือดร้อนจากการบริโภค สอดส่องพฤติการณ์ของผู้ประกอบการธุรกิจ ประสานติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอื่นๆ เพื่อให้ผู้บริโภคในท้องถิ่นได้รับความเป็นธรรม จากการประชุมที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ ได้มีการสรุปผลการดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในรอบปี 2550 พบว่า มีการรับเรื่องราวร้องทุกข์ เกี่ยวกับสินค้าและบริการ การทำสัญญาและการ ร้องเรียนเกี่ยวกับขายตรงและตลาดแบบตรง รวมจำนวน 51 เรื่อง สามารถเรียกเงินค่าชดเชย ให้กับผู้บริโภคคิดเป็นเงินประมาณ 66,340 บาท ในด้านการตรวจสอบสินค้าอุปโภค/บริโภค ในทุกอำเภอ ของคณะทำงานฯ พบว่า งานด้านตรวจสอบสินค้าที่ควบคุมฉลาก การโฆษณาสินค้าและบริการ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 5 พ.ศ. 2543 (ลด แลก แจก แถม เสี่ยงโชค ชิงรางวัล) จำนวน 10 ราย ไม่ถูกต้อง 10 ราย การตรวจสอบสินค้าที่ควบคุมสัญญา เกี่ยวกับการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ จากร้านประกอบการทั้งสิ้น จำนวน 16 ร้าน ถูกต้อง 2 ร้าน ไม่ถูกต้อง 14 ร้าน ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมด มีการดำเนินการอยู่อย่างไม่ถูกต้อง
รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยอีกว่า เพื่อให้การติดตามผลการดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคของจังหวัดกระบี่ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จังหวัดได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคประจำจังหวัดกระบี่ โดยมีคณะอนุกรรมการฯ ประกอบด้วย อัยการจังหวัดประจำกรม สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฏหมายแก่ประชาชนจังหวัดกระบี่ เป็นประธานอนุกรรมการ มีหัวหน้าสำนักงานจังหวัดกระบี่ ,นายธวัชชัย ข่ายป้องค่าย , นายพรเทพ สีบุญเรือง เป็นอนุกรรมการ และหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ สำนักงานจังหวัดกระบี่ เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ เพื่อหาข้อยุติการร้องเรียน การลดขั้นตอนให้บริการ และบูรณาการกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อประโยชนสุขของประชาชน พร้อมนี้ ได้เน้นงานด้านการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนผู้บริโภค ได้เข้าถึงบริการให้ข้อมูลข่าวสาร สิทธิของผู้บริโภคผ่านสื่อมวลชน ในรูปแบบต่าง ๆ ให้มากขึ้น ในโอกาสเดี่ยวกัน ในที่ประชุมได้มีมติให้คณะทำงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ออกตรวจสอบสารปนเปื้อนในอาหารสดและพืชผักที่มีการจำหน่ายในพื้นที่ ทั้งห้างขนาดใหญ่ หรือตามตลาดสด พร้อมตรวจสอบตาชั่งและราคาสิ้นค้าควบคู่กันไปด้วย .
|