กระบี่ -ผู้ว่าฯกระบี่สั่งจับตา 7 โรงงานผลิตสินค้าส่งออกในพื้นที่ หวั่นค่าเงินบาทแข็งส่งผลกระทบต่อแรงงานที่มีกว่า 1,700 คน
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากสถานการณ์ภาวะปัจจุบันของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้เกิดผลกระทบกับโรงงานในหลายแห่งในประเทศ โดยบางแห่งต้องปิดกิจการไปบ้างแล้ว ทำให้เกิดผลกระทบลูกจ้างเป็นจำนวนมาก ต้องกลายเป็นคนว่างงาน
ในส่วนของจังหวัดกระบี่ ก็มีโรงงานขนาดใหญ่หลายแห่งที่เปิดทำการอยู่ในพื้นที่ และที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องคอยจับตาเป็นพิเศษ โดยส่วนใหญ่เป็นโรงงานเกี่ยวเนื่องกับยางพารา และอาหาร ซึ่งเกรงว่าในอนาคตอาจจะเกิดผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่าได้
นายศิวะ กล่าวอีกว่า โรงงานที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ มีอยู่จำนวน 7 บริษัท รวมลูกจ้างจำนวน 1,751 คน ได้แก่ บ.ไทยฮั้วยางพารา จำกัด ลูกจ้าง จำนวน 598 คน บ.กูร์เมซ เซ่เวิลด์ จำกัด ลูกจ้าง จำนวน 293 คน บ.ไทยแมคเอสทีอาร์ จำกัด ลูกจ้าง จำนวน 273 คน บ.ยูไนเต็ดกระบี่รับเบอร์ จำกัด ลูกจ้าง จำนวน 132 คน บ.วงบัณฑิต จำกัด จำนวน ลูกจ้าง 103 คน บ.ไวท์สตาร์โฟร์เซ่นซีฟูดส์ จำกัด จำนวน ลูกจ้าง 94 คน เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมา ทางจังหวัดได้ทำการแต่งตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาการดำเนินธุรกิจ และการว่างงานที่เกิดจากผลกระทบจากค่าเงินบาท
สำหรับสภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดกระบี่ รวมถึงโรงงานต่างๆ ยังไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการเตรียมการและแก้ไขปัญหาหากเกิดผลกระทบในอนาคต โดยเฉพาะการจัดทำแผนในการหาตลาดแรงงานรองรับ ขณะนี้มีโครงการที่สามารถปรับกิจกรรมช่วยเหลือผู้ว่างงานได้ทันทีในโครงการอบรมพิเศษ ของศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดกระบี่ เช่น โครงการบ่มเพาะแรงงานในธุรกิจท่องเที่ยว เป็นธุรกิจที่กำลังขาดแคลนแรงงานอยู่ในปัจจุบัน สามารถเข้าทำงานได้ทันที
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ 15 สิงหาคม 2550 17:46 น.
|