นายบุญส่ง นับทอง นายกสมาคมชาวสวนยางจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงสถานการณ์ยางพาราที่มีการปรับราคาลดลงอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ว่า สาเหตุหลักมาจากปัจจัยภายในเรื่องสถานการณ์น้ำท่วมอย่างรุนแรงในประเทศ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของบริษัทต่างประเทศ ที่ใช้ยางพาราเป็นวัตถุดิบในการผลิต และปัจจัยภายนอก จากปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะในยุโรปที่ลุกลามไปที่ประเทศอิตาลี และที่สำคัญพ่อค้ารายใหญ่ในประเทศจีนชะลอการซื้อยางพาราในประเทศไทย ทำให้พ่อค้ายางในประเทศไม่สามารถส่งออกได้ จึงรับซื้อยางจากเกษตรกรในราคาถูก ประกอบกับชาวสวนยางมีความกังวลที่ราคาลดลงอย่างต่อเนื่องและรุนแรง จึงได้นำยางออกขายเป็นจำนวนมาก จึงฉุดให้ราคายางพาราตกต่ำอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง
นายกสมาคมชาวสวนยางจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า ราคายางพาราแผ่นดิบได้ขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2553 และขึ้นสูงสุดประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2554 อยู่ที่กิโลกรัมละ กว่า 170 บาท และเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาราคาได้ขยับลดลงอย่างต่อเนื่อง จนราคาขณะนี้ที่ตลาดกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 10 พฤศจิกายน ยางแผ่นดิบคุณภาพความชื้น 1-3 % กิโลกรัมละ 80.55 บาท ยางแผ่นดิบความชื้น 3.5 % กิโลกรัมละ 78.50 บาท และมีแนวโน้มว่าราคาจะลดลงอีก ดังนั้นจึงขอให้เกษตรกรระมัดระวังในการใช้จ่าย และพร้อมทั้งขอให้รัฐบาลรีบเข้าดูแลราคายางพาราอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ราคายางตกลงไปมากกว่านี้


สวท.กระบี่ ข่าว
วันที่ 11 พ.ย.2554

• สำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่สัมมนาขับเคลื่อนนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรของ คสช.
• เกษตรกรชาวสวนปาล์มจังหวัดกระบี่เดือดร้อน วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาประกันราคาปาล์มอย่างน้อยกิโลกรัมละ 6 บาท จึงจะคุ้มทุน
• จัดหางานกระบี่ จัดโครงการ นัดพบแรงงานด้วยระบบ IT เพื่อคนกระบี่มีงานทำ
• ธ.ก.ส.กระบี่เร่งรณรงค์โครงการพักชำระหนี้ให้ครบ 100 %
• จัดหางานกระบี่ รับลงทะเบียน...ด่วน เพื่อไปทำงานในมาเก๊า
• สร้างเครือข่ายชาวประมงเฝ้าระวังในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สนองมาตรการปิดอ่าวผลเป็นที่น่าพอใจ
  More >>>