สัมปทานย่อยหินกระบี่ ยังไม้ได้ข้อสรุป เบื้องต้นชุดสำรวจเจอหลักฐานทางโบราณคดี
นอกจากข่าวประชาสัมพันธ์ ข่าวทั่วไป ท่านสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารส่วนราชการในจังหวัด ได้จาก ประกาศจังหวัด

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 27 มีนาคม 2550 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ ปลัดจังหวัดกระบี่ เป็นประธานการประชุมติดตามผล ข้อร้องเรียนบริเวณพื้นที่สัมปทานเหมืองหิน หมู่ที่ 7 ตำบลทับปริก อ.เมือง จังหวัดกระบี่ โดยมีศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ สำนักงานโบราณคดี ที่ 15 วัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ และผู้ได้รับสัมปทาน เข้าร่วมประชุม โดในที่ประชุมได้สรุปประเด็นการพิจารณา 3 ประเด็น 1.ประเด็นการอนุญาตสัมปทานเหมืองหิน 2.ประเด็นพื้นที่ ที่ทำการตรวจสอบและพื้นที่สัมปทาน 3. ประเด็นพื้นที่ข้างเคียงตามใบอนุญาตสัมปทาน

นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ ปลัดจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องเรียกทุกฝ่ายมาร่วมประชุมกันในพื้นที่สัมปทานเหมืองหิน หมู่ที่ 7 ต.ทับปริก เนื่องจากว่าทางจังหวัดได้รับการร้องจากสำนักงานโบราณคดี ที่ 15 ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งวัตถุโบราณ ขอให้ทางจังหวัดสั่งระงับการสัมปทาน ส่วนทางผู้ได้รับสัมปทานก็ร้องเรียนว่าถูกกลั่นแกล้ง ให้ทางจังหวัดพิจารณาให้ด้วย ซึ่งก็ได้มีการลงไปตรวจสอบพื้นที่จริง และทางผู้สัมปทานก็ได้ให้งบประมาณ จำนวน 3 แสนบาทกับทางจังหวัดเพื่อทำการขุดค้นในพื้นที่ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งโบราณคดีจริงหรือไม่โดยการว่าจ้างนักโบราณคดีสำรวจ

นายชัยเลิศ ได้กล่าวต่อไปว่า ซึ่งในเบื้องต้นผลจากการสำรวจ ทางทีมสำรวจก็ได้ขุดเจอวัตถุโบราณเป็นเศษหม้อดินสมัยโบราณ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าอยู่ในยุคใด เนื่องจากการสำรวจยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งประมาณเดือนเมษายน 2550 นี้ การสำรวจคงจะเสร็จสิ้น และจะรวบรวมรายละเอียดส่งให้ทางคณะกรรมการส่วนกลางเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง และคงจะชี้ขาดได้ว่าพื้นที่ที่ได้รับสัมปทานสามารถเข้าไปดำเนินการระเบิดย่อยหินได้หรือไม่ โดยประมาณกลางเดือนเมษายน ก็จะสามารถทราบผลได้

“สำหรับพื้นที่สัมปทานเหมืองหิน หมู่ที่ 7 เป็นของนายชัยวัล อัศวศิริสุข ซึ่งได้รับใบอนุญาตสัมปทานมาตั้งแต่ปี 2547 ในเนื้อที่ประมาณ 90 ไร่ และจากการตรวจสอบในการขออนุญาตสัมปทานเหมืองหินก็ชอบด้วยกฎหมายทุกอย่าง แต่ติดขัดอยู่ที่ข้อร้องเรียนว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่แหล่งวัตถุโบราณ จึงต้องมีการตรวจสอบ และยังไม่สามารถจะให้ผู้ได้รับปทานดำเนินการได้ในขณะนี้ จนกว่าทางคณะกรรมการตรวจสอบจะชี้ขาดว่าพื้นที่ที่ร้องเรียนกันนั้นเป็นแหล่งโบราณคดี หรือไม่ใช่ หากว่าเป็นแหล่งโบราณคดี ผู้ได้รับสัมปทานต้องหยุดดำเนินการ และหากว่าไม่ใช่แหล่งโบราณคดี จึงจะเข้าไปดำเนินการได้ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการระดับส่วนกลางจะเป็นผู้ชี้ขาด”

ที่มา www.insanpost.com
หน่วยงานที่แจ้งประชาสัมพันธ์
สำนักงานจังหวัดกระบี่
29 มี.ค. 50 11:37:04 AM

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้องในหมวด ศิลปวัฒนธรม


แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ข้อตกลง  ขอความกรุณาใช้ถ้อยคำสุภาพ และแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ และมีเหตุผล ขอสงวนสิทธิ์ ในการแก้ไข หรือ ตัดรายการ หรือ ข้อความที่ ไม่เหมาะสมออก โดยไม่ต้องชี้แจง
ชื่อ/Email
ความคิดเห็น